“พีเจ้น” ทุ่มกว่า 50 ล้านบาท รุกตลาดเบบี้ไวพ์ คว้า “สิงโต นำโชค” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

ข่าวทั่วไป Thursday September 15, 2016 17:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์ "พีเจ้น" ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก และประสบความสำเร็จในการทำตลาดกับทุกแคมเปญที่ผ่านมา เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ แด๊ดดี้ ฮีโร่ คนแรกของเมืองไทย"สิงโต นำโชค" ด้วยการชูบทบาทคุณพ่อ ซึ่งเป็นผู้ช่วยที่ดีสุดของคุณแม่ สร้างนวัตกรรมให้วงการฯเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คุณพ่อรุ่นใหม่ทุกครอบครัว พร้อมปล่อยภาพยนตร์โฆษณาเอ็มวี และปูพรมทุกช่องทางการตลาด ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ตั้งเป้า การเติบโตไว้ที่ 20% นางสาวสุวรรณา โชคดีอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มุ่งพัฒนาอินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก แบรนด์ "พีเจ้น" เปิดเผยว่า "พีเจ้นได้ก่อตั้งและเป็นผู้นำตลาดในประเทศญี่ปุ่นเกือบ 60 ปี ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคในประเทศไทยมากว่า 30 ปี ดำเนินธุรกิจภายใต้ Positioning ที่สร้างจุดแข็งในความเป็น "ผู้เชี่ยวชาญพัฒนาการเด็กและทารก" มุ่งเน้นการสนับสนุนพัฒนาการของเด็กทารก โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และคุณภาพเป็นสำคัญ เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งคุณแม่ คุณพ่อและลูกน้อย โดยล่าสุด "พีเจ้น" เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ แด๊ดดี้ฮีโร่ ของวงการแม่และเด็ก "สิงโต นำโชค" นับเป็นครั้งแรกที่สร้างความเซอร์ไพรส์ในเมืองไทย สร้างความแตกต่าง และนำเสนอบทบาทคุณพ่อต่อการช่วยคุณแม่ดูแลลูกน้อยได้อย่างน่าสนใจ จับกลุ่มเป้าหมายคุณพ่อรุ่นใหม่ เปิดตัวครั้งแรกกับแบรนด์แอมบาสเดอร์ชายคนแรก การเปิดตัว แบรนด์แอมบาสเดอร์ ผ้าเช็ดทำความสะอาดเบบี้ไวพส์ พีเจ้น "สิงโต นำโชค" คุณพ่อหัวใจดนตรีอารมณ์ดีที่มาสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับวงการแม่และเด็กในเมืองไทย สืบเนื่องจาก คุณสิงโตเป็นคุณพ่อมืออาชีพที่เลี้ยงทั้ง 3 ทหารเสือ คือ พี่ชายคนโต ริชาร์ด ไค ลูกแฝดสุดน่ารัก น้องเคเน –น้องคาเลโอ โดยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยภรรยาสุดสวยชาวอเมริกัน มาเลีย รีเน่โรว์ และยังเป็นครั้งแรกของครอบครัวทะนัดรัมย์ที่ได้ร่วมเล่นโฆษณาฯด้วยกัน นางสาวสุวรรณา กล่าวว่า "พีเจ้นทราบดีว่า คุณพ่อส่วนใหญ่ต้องรับหน้าที่ในการทำความสะอาดลูกน้อย เรียกว่าเปลี่ยนผ้าอ้อมแทบจะเป็นหน้าที่หลักของคุณพ่อ ที่สามารถช่วยแบ่งเบาคุณแม่ได้ แต่งานที่ดูเหมือนไม่สำคัญนี้ เป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับคุณพ่อ และคุณพ่อก็อยากทำให้ดีที่สุด จึงได้เลือกคุณสิงโต มาทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราว" สำหรับแคมเปญนี้สิงโตยังได้แต่งเพลงให้กับงานโฆษณาพีเจ้นชุดนี้มีชื่อว่า "Hero Calling (อึนเนะ เอ๊ะ เฮะ อ้าว)" ซึ่งเป็นการแชร์ไอเดียร่วมกันจากทีมพีเจ้นและคุณสิงโต เพื่อสื่อสารออกมาให้ทุกคนได้รู้จักและ เข้าใจเกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์เบบี้ไวพส์มากขึ้น ว่าทำความสะอาดผิวเด็กทารกนั้น ต้องมีความพิถีพิถันในการเลือก ตามวัยของลูกน้อยที่มีความต้องการที่แตกต่างกันซึ่งผลิตภัณฑ์พีเจ้น เบบี้ไวพส์ ได้ถูกคิดค้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน เช่นเด็กทารกแรกเกิด มีผิวที่บอบบางแต่ต้องขับถ่ายบ่อยครั้งจึงต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ มอยเจอร์ไรเซอร์ ซึ่งช่วยป้องกันเรื่องผื่นผ้าอ้อม หรือหากลูกน้อยรับประทานหรือเล่นแล้วเปรอะเปื้อน ทั้งปาก มือ หรือตัว เราก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายโดยคุณพ่อคุณแม่เชื่อมั่นใจได้100% ด้วยสูตรแฮนด์ แอนด์ เมาท์ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกให้กับคุณพ่อคุณแม่ในการดูแลเรื่องให้กับลูกน้อย อย่างสูตรคาโมมายล์ ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารพาราเบน จึงทำความสะอาดได้อย่างอ่อนโยน อีกทั้ง เรายังต้องทำหน้าที่ให้ดีเมื่ออยู่นอกบ้านก็สวมบทบาทเป็นศิลปินนักร้อง นักดนตรี พิธีกร ฯลฯ และเมื่ออยู่ที่บ้านก็ต้องสวมบทบาทเป็นคุณพ่อ และเป็นสามีที่ดีทำหน้าที่ช่วยภรรยา แบรนด์แอมบาสเดอร์ "สิงโต นำโชค" น่าจะเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับคุณพ่อรุ่นใหม่ทุกๆครอบครัว ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาทอัดกิจกรรมการตลาดครบวงจร เพื่อบุกตลาดแบบเชิงรุกมากขึ้น พีเจ้น จึงต้องการฉีกสร้างนวัตกรรมที่ไม่เหมือนใครและให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคุณพ่อรุ่นใหม่ เพื่อสร้างความเข้าใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ และการสร้างแบรนด์ให้อยู่ในใจ พร้อมทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท อัดกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร ทั้ง Above the Line และ Below the Line โดยเน้นที่สื่อออนไลน์ สื่อวิทยุ การแจกสินค้าตัวอย่าง และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมทั้งยังได้รุกกิจกรรมการตลาดเชิงคุณภาพมากขึ้น เช่นการสัมมนา เวิร์คช้อป ฯลฯ รวมถึงจัดกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ผ่านทาง PigeonLitlleMomentsClub อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ที่สำคัญบริษัทฯยังคงคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์พีเจ้นให้ออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคอีกด้วย คาดว่าการรุกตลาดในครั้งนี้จะทำให้ พีเจ้น เบบี้ไวพส์ มีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มมากขึ้น และภายใน 1 เดือนหลังจากที่แคมเปญออกไป มียอดขายที่เพิ่มขึ้นแล้ว 20%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ