รมว.พม. ให้เครือข่ายสถาบันการจัดการที่ดินชุมชนแนวใหม่ 5 ภาค (สกทช.) พร้อมผู้แทน 7 ชุมชนริมคลองลาดพร้าว เข้าพบ เพื่อร่วมขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดและการสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำแนวลำคลองและทางระบายน้ำ

ข่าวทั่วไป Tuesday September 20, 2016 18:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วันนี้ (19 ก.ย. 59) เวลา 14.00 น. พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้เครือข่ายสถาบันการจัดการที่ดินชุมชนแนวใหม่ 5 ภาค (สกทช.) จำนวน 200 คน ประกอบด้วย แกนนำ สกทช. ผู้แทนสหกรณ์ที่เกี่ยวข้อง 4 สหกรณ์ และผู้แทนชุมชน 7 ชุมชนนำร่องในพื้นที่เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เข้าพบ เพื่อหารือเกี่ยวกับการเตรียมการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยของเครือข่าย สกทช. ตามนโยบาลของรัฐบาลในการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง ณ ห้องประชุม ชั้น 2 กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายจัดระเบียบแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดและการสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำแนวลำคลองและทางระบายน้ำ ซึ่งได้ดำเนินการโครงการนำร่องในพื้นที่คลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร กระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ได้จัดทำ แผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง ระยะเวลาการดำเนินงาน 3 ปี (พ.ศ.2559 – 2561) ซึ่งเป็นแผนงานที่สำคัญตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยบูรณาการร่วมกับกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ และเครือข่ายชุมชน และมีเป้าหมายดำเนินการ ในปี 2559 – 2560 ในพื้นที่คลองลาดพร้าว จำนวน 41 ชุมชน 6,606 ครัวเรือน พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับสถาบันการจัดการที่ดินชุมชนแนวใหม่ 5 ภาค (สกทช.) ได้ยื่นขอการรับรอง เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์กับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และได้รับการประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2558 ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์กรสาธารณประโยชน์ โดย สกทช. ได้ดำเนินการขับเคลื่อนงานบ้านมั่นคง-เป็นสุขสามัคคี ในพื้นที่ เขตจตุจักร 7 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนพหลโยธิน 46 ชุมชนชายคลองเสนานิคม 2 ชุมชนพหลโยธิน 32 ชุมชนหลัง วค.จันทรเกษม ชุมชนโรงเจ ชุมชนริมคลองลาดพร้าวภาวนา และชุมชนหลังตลาดสุภาพงษ์ เป็นชุมชนนำร่องในการรื้อย้ายบ้านเรือนออกจาก แนวก่อสร้างเขื่อนเพื่อก่อสร้างบ้านใหม่ โดยภายในเดือนตุลาคม 59 จะดำเนินการจัดเช่าที่ดิน ส่วนชุมชนอื่นๆ ที่มีความพร้อม จะทยอยรื้อย้ายและก่อสร้างบ้านตามแผนต่อไป สำหรับชุมชนใดที่มีพื้นที่ไม่เพียงพอหรืออยู่ในแนวเขื่อน ไม่สามารถสร้างบ้านใหม่ ในชุมชนเดิมได้ เครือข่ายสหกรณ์จะสนับสนุนให้ชาวบ้านรวมกลุ่มไปหาซื้อที่ดินแปลงใหม่ เช่น ที่ดินของบริษัทบริหารสินทรัพย์ ในสังกัดของกระทรวงการคลัง หรือที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) "อย่างไรก็ตาม ขอชื่นชมเครือข่ายดังกล่าว ที่มีพลังเข้มแข็งในการร่วมสนับสนุนชุมชนตามนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อยในระยะยาว ซึ่งการดำเนินการต่อไป กระทรวงการพัฒนาสังคมฯโดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) จะเข้าร่วมสนับสนุนการดำเนินโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะการเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์และงบประมาณสนับสนุน ทั้งนี้ เมื่อดำเนินโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ ย่อมส่งผลสำคัญให้ประชาชนในชุมชน ทั้ง 7 ชุมชน มีบ้านเป็นของตนเองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้รุกล้ำแนวลำคลองและทางระบายน้ำ ในพื้นที่ใหม่ที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีความมั่นคงและปลอดภัย อีกทั้งจะมีการส่งเสริมชุมชนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน อีกทางหนึ่งด้วย" พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ