ปภ. รายงานเกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ใน 8 จังหวัด 21 อำเภอ ประสาน 3 จังหวัดภาคใต้รับมือฝนตกหนัก - เฝ้าระวังน้ำไหลหลากและดินถล่ม

ข่าวทั่วไป Friday September 23, 2016 10:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ ใน 8 จังหวัด รวม 21 อำเภอ 63 ตำบล สถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ พร้อมประสาน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี พังงา และนครศรีธรรมราช เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความถี่ ในการตรวจวัดปริมาณน้ำฝน รวมถึงจัดเตรียมสรรพกำลัง เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ใน 8 จังหวัด รวม 21 อำเภอ 63 ตำบล แยกเป็น ชัยภูมิ น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอจัตุรัส ประชาชนได้รับผลกระทบ 400 คัรวเรือน พังงา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ 8 ตำบล ได้แก่ อำเภอ คุระบุรี อำเภอกะปง อำเภอตะกั่วป่า ประชาชนได้รับผลกระทบ 333 ครัวเรือน กำแพงเพชร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปางศิลาทอง อำเภอขาณุวรลักษบุรี และอำเภอคลองขลุงเพชรบูรณ์ น้ำในแม่น้ำป่าสักเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ และอำเภอหนองไผ่ สุโขทัย น้ำจากแม่น้ำยมล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ 21 ตำบล 141 หมู่บ้าน 14 ชุมชน ได้แก่ อำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอสวรรคโลก อำเภอศรีสำโรง อำเภอกงไกรลาศ และอำเภอบ้านด่านลานหอย ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,618 ครัวเรือน ถนน 25 สาย ตลิ่ง 4 แห่ง พื้นที่การเกษตร 40,703 ไร่ หนองบัวลำภู น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง และอำเภอเมืองหนองบัวลำภู ประชาชนได้รับผลกระทบ 3 ครัวเรือน นาข้าวเสียหาย 200 ไร่ พระนครศรีอยุธยา น้ำล้นตลิ่งจากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล และอำเภอพระนครศรีอยุธยา ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,813 ครัวเรือน กาญจนบุรี น้ำป่าไหลหลากและน้ำระบายไม่ทันท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกาญจนบุรี และอำเภอมะขามเตี้ย ประชาชนได้รับผลกระทบ 134 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์ในภาพรวมทั้ง 8 จังหวัด ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตร ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ได้ร่วมกับหน่วยทหารและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ประกอบกับบางพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนสะสมเพิ่มขึ้น ทำให้ชั้นดินอุ้มน้ำไว้มาก อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มได้ ปภ. จึงได้ประสาน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี พังงา และนครศรีธรรมราช และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจัดเตรียมสรรพกำลัง เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการ เผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ราบเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด หมั่นสังเกตความผิดปกติของธรรมชาติที่เป็นสัญญาณเตือนก่อนเกิดดินถล่ม เพื่อเตรียมการอพยพได้อย่างทันท่วงที ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป 0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ