กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทยเปิดหลักสูตร KBank Private Banking Next Generation 2016 สำหรับทายาทเศรษฐีรุ่นใหม่ รุ่นที่ 2 จัดเต็มความรู้เชิงวิชาการ ทั้งการวิเคราะห์ การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ตลอดจนการจัดสรรเงินลงทุนให้มีการบริหารความเสี่ยงได้อย่างเป็นระบบ คาดจะสามารถสร้างเครือข่ายการต่อยอดธุรกิจที่เข้มแข็งได้ต่อไปในอนาคต
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันการเข้าถึง ข้อมูลตลาดการเงินทั้งในและต่างประเทศสามารถทำได้โดยง่าย ผลิตภัณฑ์ทางการเงินมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีสินทรัพย์สูง (HIGH NET WORTH) ที่ไม่ได้มี ข้อจำกัดเฉพาะตลาดเงินและตลาดทุนภายในประเทศเท่านั้น
ธนาคารเล็งเห็นถึงความสำคัญของการบริหารเงินลงทุนส่วนบุคคลเพื่อความมั่งคั่งระยะยาว การจัดหลักสูตร KBank Private Banking Academy ซึ่งปีนี้มาในธีม KBank Private Banking Next Generation 2016 จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยให้ทายาทธุรกิจได้เรียนรู้หลักการวิเคราะห์และลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินเพื่อการจัดสรรเงินลงทุน (Asset Allocation) ที่จะให้ผลตอบแทนแบบเกินความคาดหมาย รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้ามาสืบทอดดูแลกิจการและสินทรัพย์ของครอบครัว การพัฒนาหลักสูตรดังกล่าวออกแบบมาเพื่อให้ทายาทเจ้าของธุรกิจได้เรียนรู้หลักการวิเคราะห์และลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินประเภทต่าง ๆ ตลอดจนการจัดสรรเงินลงทุนที่มีการบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ ซึ่งผู้เข้าร่วมหลักสูตรสามารถนำไปใช้ได้จริงในการบริหารเงินลงทุนส่วนบุคคล รวมถึงบทเรียนและตัวอย่างการลงทุนจากผู้ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก ทั้งนี้กิจกรรมต่าง ๆ จะเป็นการนำความรู้ในเชิงทฤษฎีมาใช้จริงในเชิงปฏิบัติ เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น โดยทุกกิจกรรมได้รับความร่วมมือจากผู้ลงทุนระดับมืออาชีพทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับหลักสูตรในครั้งที่ 2 นี้มีผู้เข้าร่วมหลักสูตรเพิ่มขึ้นจาก 60 เป็น 84 คน เนื่องจากมีการจัดหลักสูตรเนื้อหาที่ตรงใจของลูกค้า มีการอบรมสัมมนาเชิงลึกที่เข้มข้น ทั้งการบริหารเงินลงทุน และเสริมทักษะแก่ผู้บริหารคุณภาพในอนาคตด้วยหลากหลายหัวข้อการอบรม และกิจกรรมแบบ 360 องศา นอกจากความรู้ที่จะได้รับ ผู้เข้าร่วมหลักสูตรยังได้รู้จักเพื่อนร่วมโครงการ มีการสร้างเครือข่ายที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันสำหรับการต่อยอดธุรกิจในอนาคต โดยเน้นการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญและการแบ่งปันประสบการณ์จากผู้ประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจ มีกิจกรรมที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ รวมถึงกิจกรรมศึกษาดูงานกับธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier) ธนาคารพันธมิตรผู้ให้บริการไพรเวทแบงก์ชั้นนำจากสวิตเซอร์แลนด์ ณ ประเทศฮ่องกง เพื่อรับฟังการบรรยายในเรื่องการส่งต่อธุรกิจและการบริหารจัดการเงินในรูปแบบครอบครัว ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในโครงการ อีกทั้งยังจะได้รับความรู้ในการลงทุนผ่านผลงานศิลปะที่จะให้ผลตอบแทนมหาศาลในอนาคตจาก Christie's Auction บริษัทประมูลศิลปะชั้นนำระดับโลกอีกด้วย
นางสาวขัตติยา กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับเป้าหมายสำคัญของกิจกรรมในปีนี้คือ การสร้างทายาทธุรกิจที่มีความเข้าใจในการเลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง รู้จักการจัดการที่เหมาะสมในการจัดสรรเงินทุน ภายใต้สภาวะที่ผันผวนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การมีสังคมของกลุ่มทายาทธุรกิจด้วยกัน และพร้อมต่อยอดเชื่อมโยงความสัมพันธ์สู่รุ่นต่อไป โดยหวังว่าหลักสูตรดังกล่าวจะเป็นก้าวแรกในการสร้างมหาเศรษฐีรุ่นใหม่ที่มีความรอบรู้ในอนาคต