กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 19 ตุลาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,259.74-1,264.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,950 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV16 อยู่ที่ 21,000 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 80 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,080 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.13 น.ของวันที่ 19/10/16)
แนวโน้มวันที่ 20 ตุลาคม 2559
ยอดซื้อทองคำของอินเดียได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดการเงินที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลลบต่อการลงทุนในทองคำ ขณะที่ทางการอินเดียดำเนินการปราบปรามรายได้และสินทรัพย์ต่างชาติที่ไม่เปิดเผย หรือ เงินมืด (black money) ได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ทองในอินเดียให้ชะลอตัวลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทองคำได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน เมื่อตัวเลขราคาผู้บริโภคของสหรัฐแสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยับลงเล็กน้อย และตัวเลขดังกล่าวทำให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคม ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่า มีโอกาสเพียง 65% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม โดยปรับลดลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ 70% ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุน ผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมประจำปีของสมาคมตลาดทองคำลอนดอน (LBMA) คาดว่า ราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นสูงกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า และคาดว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ 1,347.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในเดือนตุลาคมปี 2560 สอดคล้องกับผลสำรวจของรอยเตอร์ที่สำรวจความเห็นผู้แทนบางคน คาดว่า ราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้นสูงกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปีหน้า เพราะการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในตลาดส่งมอบปัจจุบันจะช่วยรับมือจากสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ในระยะสั้นทางวายแอลจี มีมุมมองว่าหากราคาทองคำหากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้จะทำให้ราคาอ่อนตัวลงมา แนะนำให้รอจังหวะการดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านอาจเปิดสถานะขาย และปิดสถานะทำกำไรเมื่อราคาย่อตัวลง โดยหากรับความเสี่ยงได้สามารถซื้อเก็งกำไรระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งราคาทองคำยังมีแรงขายทำกำไร ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนให้เน้นไปที่การเข้าซื้อเก็งกำไร ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,241 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,250 (20,630บาท) 1,241 (20,480บาท) 1,228 (20,260บาท)
แนวต้าน 1,273 (21,010บาท) 1,280 (21,130บาท) 1,290 (21,290บาท)
GOLD FUTURES (GFV16)
แนวรับ 1,250 (20,780บาท) 1,241 (20,630บาท) 1,228 (20,420บาท)
แนวต้าน 1,273 (21,160บาท) 1,280 (21,280บาท) 1,290 (21,450บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999