EIC ปรับโมเดลธุรกิจ ลุยสื่อนอกบ้าน เข้าซื้อกิจการ Thai Lotus พร้อมบุกป้าย Digital เต็มรูปแบบ กรรมการใหม่ลั่น พร้อมร่วมพลิกธุรกิจและสะสางปัญหาเก่า คาดปลด NP นำองค์กรสู่วันใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 25, 2016 10:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--BANGKOK AUTUMN บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EIC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าบริษัทฯ ได้เข้าซื้อบริษัท Thai Lotus ธุรกิจให้เช่าป้ายโฆษณา คิดเป็น 100% รวมมูลค่า 85 ล้านบาท ซึ่งมีป้ายโฆษณา Bill Board จำนวน 10 แห่ง รวม 13 หน้าป้าย กระจายอยู่ใน 7 จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งตั้งด้อยค่า Thai Prime Investment เรียบร้อยแล้ว และมั่นใจว่าจะสามารถเคลียร์ปัญหาจบก่อนสิ้นปี นายกุศล สังขนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EIC กล่าวว่า การเข้าซื้อบริษัท Thai Lotus ซึ่งเป็นธุรกิจให้เช่าป้ายโฆษณา จะช่วยต่อยอดธุรกิจของ EIC ในด้านการขยายไลน์ธุรกิจเพิ่ม และบริษัทมีนโยบายจะขยายไปทางด้าน ป้าย Digital ซึ่งต้องใช้ระบบ Electronic และ LED ซึ่งเป็นการต่อยอดธุรกิจปัจจุบันไปอีกทางหนึ่ง ส่วนปัญหาเรื่องงบการเงิน ทางคณะกรรมการและผู้บริหารชุดใหม่อยู่ระหว่างการดำเนินการอย่างเต็มที่ และให้ความมั่นใจว่าจะสามารถปลดเครื่องหมาย NP ได้ภายในปีนี้ ปัจจุบัน ธุรกิจของบริษัทย่อยและบริษัทในเครือมีสัดส่วน ดังนี้ 1) บริษัท อีไอซี เซมิคอนดักเตอร์ จำกัด("EIC Semi") ผลิต-จำหน่ายอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์อุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ (Discrete Semiconductor) อย่างครบวงจร (Manufacturer with Wafer Fabrication) โดยเป็นทั้งผู้ผลิตวัตถุดิบต้นน้ำคือ แผ่นซิลิคอนเวเฟอร์ (Silicon Wafer) เพื่อนำมาใช้ในการประกอบเป็น Diodes สัดส่วนการถือหุ้น 99.99% 2) บริษัท สมาร์ท แทรฟิค จำกัด ("Smart Traffic") ประกอบธุรกิจ ติดตั้งระบบเก็บเงินค่าทางด่วนแบบเงินสดและแบบอัตโนมัติ (Easy Pass), ระบบชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วยโทรศัพท์มือถือ (NFC) และระบบชำระเงินผ่านทางบัตรเครดิต VISA Paywave ทั้งด้านคมนาคมและขนส่ง ระบบบริหารและแลกเปลี่ยนคะแนนสะสมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าปลีกธุรกิจและคมนาคม (Loyalty Program) โครงการจัดทำระบบตั๋วร่วมและเคลียริ่งเฮาส์ (Clearing House) สัดส่วนการถือหุ้น 26.94% ซึ่งปัจจุบัน อยู่ระหว่างการรอรับชำระเงินค่าขายหุ้น Smart Traffic ส่วนที่เหลือ จำนวน 165 ล้านบาท ตามสัญญาซื้อขายหุ้น โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทได้รับชำระค่าหุ้นบางส่วนมาแล้ว จำนวน 15 ล้านบาท คงเหลือค้างจ่ายอีก 150 ล้านบาท ในส่วนเงินมัดจำค่าหุ้น จำนวน 70 ล้านบาท ของนางสาวพรพันธ์ ศิริวงศ์ ณ อยุธยานั้น ได้มีการขยายระยะเวลาการชำระคืนให้แก่บริษัท โดยจะสิ้นสุดภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 โดยทั้ง 2 รายการ หากมีการผิดนัดชำระหนี้ไม่ว่างวดใด บริษัทจะดำเนินการให้มีการเรียกรับชำระหนี้ที่เหลือทั้งหมดทันที โดยไม่พิจารณาเลื่อนการชำระเงินให้อีก พร้อมดำเนินตามกฏหมายเพื่อปกป้องประโยชน์ของ ผถห โดยรวม 3) บริษัท ไทย ไพร์ม อินเวสท์เมน์ จำกัด ("TPIL") ธุรกิจด้านกีฬาซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ EIC ถือหุ้นในสัดส่วนการถือหุ้น 100% บริษัทฯ ได้อนุมัติตั้งด้อยค่าไปแล้ว จะไม่ดำเนินการต่อ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาขายหุ้นส่วนนี้ออกไปโดยเร็ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ