ปตท.สผ. เผยผลประกอบการ 9 เดือนแรกแข็งแกร่ง มีกำไรสุทธิ 388 ล้านดอลลาร์ สรอ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 27, 2016 15:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--ปตท.สผ. ต้นทุนต่อหน่วยลดลงกว่า 23% เมื่อเทียบกับปี 2558 จากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ตามแนวทาง SAVE to be SAFE และ SPEND SMART to Business Sustainability สถานะการเงินแข็งแกร่งด้วยเงินสดในมือกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ. พร้อมรองรับโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มปริมาณการผลิต และปริมาณสำรองปิโตรเลียมในอนาคต นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ตกต่ำและยังมีความผันผวน บริษัทได้มีการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2559 ของ ปตท.สผ. และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 388 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มีขาดทุนสุทธิ 986 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งเป็นผลจากการบันทึกการด้อยค่าของสินทรัพย์ในปีที่แล้วเป็นจำนวนถึง 1,385 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสูงถึง 1,727 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายลงทุนเพื่อรักษาระดับการผลิต นอกจากนี้ บริษัทยังคงรักษาสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสดในมือ 3,722 ล้านดอลลาร์ สรอ. ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2559 เพื่อรองรับโอกาสการลงทุนเพิ่มเติม พร้อมกับมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ในช่วงการผลิตหรือช่วงการพัฒนาซึ่งใกล้จะเริ่มผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการขยายการลงทุนในโครงการสำรวจ โดยที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าลงทุนในโครงการซาราวักเอสเค 410 บี ซึ่งเป็นโครงการสำรวจที่มีศักยภาพทางปิโตรเลียมสูงในมาเลเซีย ทั้งนี้ใน 9 เดือนแรกปี 2559 บริษัทมีรายได้รวม 3,281 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 36.00 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 47.47 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถรักษาปริมาณการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 320,600 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ซึ่งเป็นไปตามแผนงานในการรักษาปริมาณการขายทั้งปี 2559 ให้อยู่ระดับเดียวกับปีก่อน และที่สำคัญบริษัทสามารถลดต้นทุนในการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยต้นทุนต่อหน่วยสำหรับ 9 เดือนแรกของปี2559 อยู่ที่ 29.98 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือลดลง 23% เมื่อเทียบกับต้นทุนเฉลี่ยของปี 2558 ที่อยู่ที่ 38.88 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ลดลงมากกว่าเป้าหมายการลดต้นทุนที่ตั้งไว้เดิมที่ 10% เป็นผลให้บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานตามปกติ (Recurring Net Income) อยู่ที่ 345 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งในรอบ 9 เดือนแรกนี้ บริษัทมีกำไรจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ(Non-Recurring) จำนวน 43 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยเป็นผลสุทธิจากผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจาก 36.09 ต่อดอลลาร์ สรอ. เป็น 34.70 ต่อดอลลาร์ สรอ. ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2559 และส่งผลให้เกิดผลประโยชน์ทางภาษีและจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน ซึ่งรวมผลขาดทุนจากการประเมินมูลค่าสัญญาฯ คงเหลือ ณ สิ้นไตรมาส 3 จำนวน 52 ล้านดอลลาร์ สรอ. ด้วยแล้ว โดยผลขาดทุนดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทฯ สำหรับในไตรมาส 3 ปี 2559 บริษัทมีกำไรสุทธิ 156 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 5,446 ล้านบาท) โดยเป็นกำไรจากการดำเนินงานตามปกติ 75 ล้านดอลลาร์ สรอ. และกำไรจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ (Non-Recurring) 81 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกำไรจากการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน (Oil Price Hedging) จำนวน 23 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยได้รวมผลขาดทุนจากการประเมินมูลค่าสัญญาฯ คงเหลือ ณ สิ้นไตรมาส 3 จำนวน 52 ล้านดอลลาร์ สรอ. ด้วยแล้ว และยังได้รับผลประโยชน์จากค่าใช้จ่ายทางภาษีที่ลดลงจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ. นายสมพร กล่าวว่า "ผลประกอบการของ ปตท.สผ. ใน 9 เดือนแรกของปี 2559 ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าบริษัทยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยเป็นผลจากการบริหารปัจจัยที่อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการรักษาระดับการผลิตและการบริหารจัดการต้นทุนภายใต้โครงการ SAVE to be SAFE ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี นอกจากนี้บริษัทยังได้ต่อยอดด้วยการเริ่มโครงการ SPEND SMART to Business Sustainability ด้วยแนวคิด "คิดใหม่ ทำใหม่ ให้ได้ผล" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว และเติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งรางวัลแห่งความสำเร็จที่สำคัญในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งได้พิสูจน์ความเป็นมืออาชีพของคณะกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานทุกคนของบริษัท คือการที่ ปตท.สผ. ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ระดับโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้รับคะแนนสูงสุด (Industry Leader) ในกลุ่มธุรกิจน้ำมันและก๊าซ ประเภทธุรกิจขั้นต้นและธุรกิจครบวงจร ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของ ปตท.สผ. "
แท็ก ปตท.สผ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ