ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตธนาคารรัฐของไทย 5 แห่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 22, 2016 10:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตธนาคารรัฐ 5 แห่งได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (BAAC) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (GH BANK) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (IBANK) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK) สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต อันดับเครดิตของธนาคารรัฐทั้ง 5 แห่ง สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงที่รัฐบาลไทยจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารแต่ละแห่งหากจำเป็น เนื่องจากธนาคารรัฐแต่ละแห่งมีบทบาทในเชิงนโยบายต่อรัฐบาลในระดับสูงหรือปานกลาง ซึ่งได้มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนในพระราชบัญญัติจัดตั้งของธนาคารรัฐแต่ละแห่ง นอกจากนี้ธนาคารรัฐดังกล่าวยังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล โดยสะท้อนได้จากการที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดในธนาคาร การที่แต่ละธนาคารมีสถานะทางกฎหมายเป็นธนาคารรัฐ อีกทั้งแต่ละธนาคารยังได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีต เช่น การชดเชยทางการเงินจากความเสียหายที่เกิดจากการดำเนินงานที่สนับสนุน นโยบายของภาครัฐ การให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง และการเพิ่มเงินทุน อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term IDR) ของ EXIM อยู่ในระดับเดียวกันกับรัฐบาลไทย และอันดับเครดิตภายในประเทศของ BAAC EXIM GH BANK และ SME BANK เป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุด อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ IBANK อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตของประเทศไทย 2 อันดับ เนื่องจากบทบาทในการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐมีขอบเขตที่จำกัดกว่าและการสนับสนุน่จากรัฐบาลที่มีความชัดเจนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารรัฐอื่นทั้งในเชิงกฎหมายและการเงิน นอกจากนี้ความแตกต่างที่มากกว่าของอันดับเครดิตระหว่าง IBANK กับประเทศไทยเมื่อเทียบกับธนาคารรัฐอื่น ยังสะท้อนถึงสัดส่วนการถือหุ้นโดยตรงของกระทรวงการคลังในระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารรัฐอื่น รวมทั้งสะท้อนถึงแผนการปรับโครงสร้างองค์กรซึ่งอาจส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของรัฐบาลใน IBANK ลดลง ปัจจุบันสัดส่วนการถือหุ้นโดยตรงของกระทรวงการคลังใน IBANK ถูกจำกัดที่ 49% อย่างไรก็ตามภาครัฐมีสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันอยู่ที่ 98% โดยเป็นการถือหุ้นผ่านธนาคารรัฐอื่น ฟิทช์คาดว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารรัฐทั้ง 5 แห่งดังกล่าวได้อย่างทันท่วงทีในกรณีที่มีความจำเป็น แต่อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของ BAAC EXIM และ GH BANK ที่ผ่านมาไม่ได้อยู่ในระดับที่มีความจำเป็นที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล SME BANK และ IBANK ยังอยู่ในระหว่างการฟื้นฟูกิจการ สำหรับ SME BANK การฟื้นฟูกิจการมีความคืบหน้าตามแผนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการปรับตัวลดลงอย่างมากของอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม แต่อย่างไรก็อัตราส่วนดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่ามากเมื่อเทียบกับ BAAC EXIM และ GH BANK สำหรับ IBANK ฐานะทางการเงินโดยรวมของธนาคารยังคงปรับตัวแย่ลงอย่างต่อเนื่องโดยธนาคารยังมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญในระดับสูงและส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าฐานะทางการเงินที่อ่อนแอของธนาคารทั้ง 2 แห่ง เมื่อเทียบกับธนาคารรัฐอื่นไม่น่าจะเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลต่อโอกาสที่ภาครัฐจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคาร อีกทั้งธนาคารยังคงได้รับประโยชน์จากการผ่อนผันในด้านเกณฑ์การกำกับดูแล ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ EXIM และ IBANK จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ BAAC EXIM GH BANK และ SME BANK เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด การปรับตัวลดลงของโอกาสที่รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนสำหรับธนาคารแต่ละแห่งอาจส่งผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตสากลและอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารรัฐ โดยการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของสัดส่วนการถือหุ้นของภาครัฐ หรือการเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฎหมาย อาจเป็นปัจจัยที่บ่งชี้ถึงการให้ความสนับสนุนของรัฐบาลที่ลดลง อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง การปรับโครงสร้างองค์กรของ IBANK อาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างผู้ถือหุ้นของธนาคาร แม้ว่ารายละเอียดของแผนการดำเนินการและกรอบระยะเวลายังไม่มีความชัดเจน ทั้งนี้ฟิทช์ยังไม่ได้คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฎหมายของธนาคารที่ปัจจุบันเป็นธนาคารรัฐ แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยที่บ่งชี้ว่าภาครัฐไม่มีความพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือในด้านเงินทุนและการปรับโครงสร้างองค์กร หรือการที่ธนาคารมีบทบาทในการสนับสนุนนโนบายของภาครัฐลดลงอาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของธนาคาร รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมด มีดังนี้ BAAC - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)' EXIM: - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'BBB+' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F2' - อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ '2' - อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำคงอันดับที่ 'BBB+' - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)' GH BANK - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)' IBANK - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'BBB-' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F3' - อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ '2' - อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำคงอันดับที่ 'BBB-' - อันดับเครดิตในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)' SME Bank - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ