กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กระทรวงแรงงาน แจงกรณีลูกจ้างโรงพยาบาลเอกชนร้องนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้าง เผยนายจ้างรับกระทำความผิดจริงเบื้องต้นจ่ายค่าจ้างบางส่วนแล้ว ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกำชับให้ดำเนินคดีกับนายจ้างทุกราย ที่ไม่ให้ความเป็นธรรมกับลูกจ้าง เพื่อป้องปรามมิให้ฝ่าฝืนกระทำความผิดและเอารัดเอาเปรียบลูกจ้าง
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ชี้แจงกรณีที่นางสาวช่อเพชร นุ่มเมืองฝาง ลูกจ้างบริษัท แสงศิริการแพทย์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 76 /2 ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ประกอบกิจการโรงพยาบาลมาร้องเรียนที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพิษณุโลกเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมาว่า ถูกนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ค้างจ่ายค่าจ้างเดือนธันวาคม 2559 และปรับลดค่าจ้างจาก 9,000 บาทเหลือ 6,567 บาท ซึ่งต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเวลา 16 เดือน เป็นเงิน 38,928 บาท และค่าทำงานในวันหยุดวันพักผ่อนประจำปีและวันลาป่วยอีกจำนวนหนึ่งนั้น เบื้องต้น พนักงานตรวจแรงงานได้ดำเนินการสอบปากคำนายจ้างไปแล้วตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม ซึ่งนายจ้างให้การรับว่าค้างจ่ายค่าจ้างจริงและจะเร่งดำเนินการจ่ายเงินให้กับลูกจ้างโดยเร็ว จากนั้นวันที่ 6 มกราคม พนักงานตรวจแรงงานได้เข้าพบนายจ้างที่บริษัท แสงสิริการแพทย์ จำกัด อีกครั้ง เพื่อเร่งรัดการพิจารณาเงินตามสิทธิ์ที่ลูกจ้างร้องทุกข์ ซึ่งนายจ้างได้จ่ายค่าจ้างเดือนธันวาคม 2559 จำนวน 9,000 บาท ให้กับลูกจ้างในวันดังกล่าว สำหรับค่าชดเชย และเงินรายการอื่นๆ ในวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2560 พนักงานตรวจแรงงานจะดำเนินการออกคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าจ้าง ค่าชดเชย และเงินรายการอื่นๆ ที่ค้างจ่ายพร้อมดอกเบี้ย ให้แล้วเสร็จเพื่อเร่งรัดให้นายจ้างปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย
นายสุเมธ กล่าวต่อไปว่า พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำชับให้ดำเนินคดีกับนายจ้างทุกรายที่ไม่ให้ความเป็นธรรมกับลูกจ้างและไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้นายจ้างฝ่าฝืนกระทำความผิดและเอารัดเอาเปรียบลูกจ้างได้ สำหรับกรณีนี้ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงาน ออกคำสั่งให้นายจ้างปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายหากนายจ้างไม่ดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนด ก็จะแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวข้างต้น มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเมื่อถึงขั้นตอนนี้ลูกจ้างสามารถมายื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง รวมทั้งมอบอำนาจให้ กสร.ฟ้องร้องทางแพ่งได้