ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัย 8 จังหวัด พร้อมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ข่าวทั่วไป Thursday January 12, 2017 10:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 8 จังหวัดได้แก่ พัทลุง สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ รวม 74 อำเภอ 431 ตำบล 3,343 หมู่บ้านปัจจุบันระดับน้ำลดลงทุกจังหวัดแล้ว โดย ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ฝนที่ตกหนักตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีจังหวัดได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด รวม 119 อำเภอ 708 ตำบล 5,244 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ403,478 ครัวเรือน 1,206,939 คน ผู้เสียชีวิต 36 ราย สูญหาย 1 ราย สถานที่ราชการเสียหาย 17 แห่ง ถนน 592 จุด คอสะพาน 106 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ระนอง ปัตตานี และนราธิวาส ยังคงมีสถานการณ์ใน 8 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ รวม 74 อำเภอ 431ตำบล 3,343 หมู่บ้าน โดยพัทลุง มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอปากพะยูน อำเภอเขาชัยสน และอำเภอบางแก้วรวม 13 ตำบล 175 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 27,274 ครัวเรือน 64,018 คน ผู้เสียชีวิต 5 ราย สงขลา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนเนียง อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสิงหนคร อำเภอสทิงพระ และอำเภอระโนด รวม 17 ตำบล 86 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,880 ครัวเรือน 26,715 คน อพยพ 19 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย ตรัง มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอห้วยยอด อำเภอวังวิเศษ และอำเภอกันตัง รวม 29 ตำบล 7 เทศบาล 217 หมู่บ้าน 16 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,959 ครัวเรือน 32,226 คน ผู้เสียชีวิต 2 ราย สุราษฎร์ธานี มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 17 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอบ้านนาสาร อำเภอดอนสัก อำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี อำเภอท่าชนะ อำเภอเกาะสมุย อำเภอไชยา อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอชัยบุรี อำเภอเกาะพะงัน อำเภอท่าฉาง อำเภอพระแสง อำเภอวิภาวดี อำเภอเวียงสระ อำเภอพนม อำเภอพุนพิน และอำเภอเคียนซา รวม 97 ตำบล 700 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 79,125 ครัวเรือน 230,981 คน ผู้เสียชีวิต 6 ราย นครศรีธรรมราช มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 23 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอทุ่งสง อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอท่าศาลา อำเภอสิชล อำเภอนาบอน อำเภอพิปูน อำเภอช้างกลาง อำเภอฉวาง อำเภอนบพิตำ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอขนอม อำเภอพรหมคีรี อำเภอลานสกา อำเภอบางขัน อำเภอปากพนัง อำเภอถ้ำพรรณรา อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอหัวไทร และอำเภอเฉลิมพระเกียรติรวม 154 ตำบล 1,278 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 134,080 ครัวเรือน 409,130 คน ผู้เสียชีวิต 9 ราย ชุมพร มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทุ่งตะโก อำเภอพะโต๊ะ อำเภอหลังสวน อำเภอละแม อำเภอสวี อำเภอเมืองชุมพร อำเภอปะทิว และอำเภอท่าแซะ รวม 64 ตำบล 643 หมู่บ้าน 1 เทศบาล 22 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,060 ครัวเรือน 74,631 คน ผู้เสียชีวิต 3 ราย กระบี่ มีสถานการณ์ น้ำท่วมใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกระบี่ อำเภอเขาพนม อำเภออ่าวลึก อำเภอปลายพระยา และอำเภอเกาะลันตา รวม 24 ตำบล64 หมู่บ้าน 1 เทศบาล 2 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 97 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 3 ราย และประจวบคีรีขันธ์ มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางสะพาน อำเภอทับสะแก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ อำเภอบางสะพานน้อย และอำเภอกุยบุรี รวม 33 ตำบล 180 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,496 ครัวเรือน 55,868 คน ผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยภาพรวมสถานการณ์ในปัจจุบันระดับน้ำลดลงทุกจังหวัดแล้ว ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่ พร้อมรถบรรทุกขนาดใหญ่ เรือท้องแบนอำนวยความสะดวกในการสัญจรแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ รวมถึงดำเนินการซ่อมแซมถนนและสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า สถานการณ์ฝนในภาคใต้คลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบัน คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ประเทศเมียนมา ทำให้ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกได้ในระยะนี้ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อ ได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ