กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--IR network
FER เผยวันที่ 1-7 ก.พ.60 เปิดให้จองซื้อหุ้นและชำระเงินค่าหุ้นสามัญสามัญเพิ่มทุน 759.19 ล้านหุ้น ที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ด้านหัวเรือใหญ่ "ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ" มั่นใจแห่ใช้สิทธิคึกคัก หลังสยายปีกเข้าสู่ธุรกิจพลังงานเต็มรูปแบบ หนุนรายได้-กำไร เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟอร์รั่ม จำกัด (มหาชน) (FER) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2560 ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2560 ได้มีมติอนุมัติเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯรวมถึงการเสนอขายและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเป็นจำนวนไม่เกิน 759,199,980 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ในสัดส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ โดยเศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง ในราคาหุ้นละ 1.00 บาท
ทั้งนี้ กำหนดให้วันที่ 16 มกราคม 2560 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นและได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Record Date) และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันอังคารที่ 17 มกราคม 2560 และได้มีมติมอบหมายให้คณะกรรมการ และ/หรือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีอำนาจพิจารณารายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการกำหนดระยะเวลาและรายละเอียดเกี่ยวกับการเสนอขายและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่นั้น โดยกำหนดระยะเวลาจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นสามัญสามัญเพิ่มทุนวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ 2560 (ตัวแทนการรับจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุน)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟอร์รั่ม จำกัด (มหาชน) (FER) กล่าวอีกว่า การขยายการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท ไปยังกลุ่มธุรกิจที่มีรายได้และอัตราการทำกำไรที่สม่ำเสมอจะช่วยต่อยอดธุรกิจพลังงานและช่วยกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทในภาพรวม นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในการเพิ่มรายได้และอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสม จะช่วยให้บริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง และเพิ่มกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในระยะยาว ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต ดังนั้นจึงคาดว่านักลงทุนจะใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนกันอย่างคึกคัก