ปภ.แนะเลือกใช้และพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ถูกวิธี...ลดเสี่ยงอันตราย

ข่าวทั่วไป Thursday January 19, 2017 10:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แบตเตอรี่รถยนต์เป็นอุปกรณ์จัดเก็บและจ่ายกระแสไฟฟ้าของรถยนต์ ซึ่งบ่อยครั้งที่ผู้ขับขี่มักประสบปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ทำให้เครื่องยนต์ดับและสตาร์ทไม่ติด การพ่วงแบตเตอรี่จึงเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้ตามปกติในระยะเวลาสั้นๆ ก่อนนำรถไปตรวจสอบ ซึ่งการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์อย่างไม่ถูกวิธี อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะการเลือกใช้แบตเตอรี่ และพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์อย่างถูกวิธี ดังนี้ การเลือกใช้แบตเตอรี่รถยนต์ ใช้แบตเตอรี่รถยนต์ที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัย เลือกแบตเตอรี่ที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งานของรถแต่ละรุ่น โดยมีขนาดแอมแปร์เท่ากับหรือมากกว่าที่ติดมากับรถยนต์ มีความจุไฟฟ้าเหมาะสมกับปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าของรถ หากมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม อาทิ เครื่องเสียง ให้ใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดแอมแปร์สูงขึ้น การพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ - ปิดสวิตช์และอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดของรถ - นำรถคันที่มีแบตเตอรี่ปกติมาจอดใกล้ๆ เพื่อต่อสายพ่วงแบตเตอรี่ - นำสายพ่วงแบตเตอรี่ขั้วบวก (สีแดง) มาต่อกับแบตเตอรี่ขั้วบวกของรถคันที่แบตเตอรี่หมด - นำสายพ่วงแบตเตอรี่ขั้วลบ (สีดำ) มาต่อกับแบตเตอรี่ขั้วลบของรถคันที่แบตเตอรี่หมด - นำขั้วสายพ่วงที่เหลือต่อเข้ากับส่วนที่เป็นโลหะของเครื่องยนต์หรือตัวถังของรถที่แบตเตอรี่หมด - สตาร์ทเครื่องยนต์รถคันที่มีแบตเตอรี่ทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที แล้วเร่งเครื่องยนต์เล็กน้อย เพื่อให้แบตเตอรี่มีการไหลเวียนของประจุไฟฟ้า - สตาร์ทเครื่องยนต์รถคันที่แบตเตอรี่หมด พร้อมเร่งเครื่องในอัตรา 1,500 – 2,000 รอบต่อนาที เพื่อตรวจสอบว่ามีประจุไฟฟ้าเข้าหลังจากการชาร์จไฟแบตเตอรี่หรือไม่ - ถอดสายพ่วงรถคันที่แบตเตอรี่หมดและถอดสายพ่วงรถคันที่มีแบตเตอรี่ปกติออก - นำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์และเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ข้อควรระวังในการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ - ไม่สตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดระบบไฟของรถทั้งสองคัน เพราะจะทำให้เกิดประกายไฟ ส่งผลให้เกิดการระเบิดได้ - ไม่ต่อสายพ่วงเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่ของรถคันที่แบตเตอรี่หมด เพื่อป้องกันแบตเตอรี่ระเบิด - ห้ามสูบบุหรี่ จุดไฟแช็ก หรือก่อให้เกิดประกายไฟ เพราะในขณะต่อสายพ่วงแบตเตอรี่จะมีแก๊สบริเวณดังกล่าว ทำให้เกิดการระเบิดได้ - สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตาและถุงมือทุกครั้งที่สัมผัสแบตเตอรี่ เพราะน้ำกรดในแบตเตอรี่เป็นสารกัดกร่อน ทำให้ได้รับอันตรายได้ - ระมัดระวังไม่ให้แบตเตอรี่เอียงหรือตะแคง เพราะน้ำกรดอาจรั่วไหลออกมาทางรูระบาย ก่อให้เกิดอันตรายได้ - ระมัดระวังไม่ให้ปลายสายพ่วงแบตเตอรี่สัมผัสกัน เพราะจะทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร แม้การพ่วงแบตเตอรี่จะสามารถทำเองได้ แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากแบตเตอรี่มีน้ำกรด เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งมีคุณสมบัติกัดกร่อนพื้นผิว อีกทั้งในขณะที่แบตเตอรี่ทำงาน จะเกิดการสะสมของ ก๊าซไฮโดรเจน หากมีประกายไฟจะทำให้เกิดการระเบิดได้
แท็ก แบตเตอรี่  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ