ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ 7 จังหวัด ช่วยเหลือ – สำรวจ – ฟื้นฟูครอบคลุมทุกด้าน พร้อมเตือน 6 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างรับมือฝนตกหนักในช่วงวันที่ 23 - 25 ม.ค. 60

ข่าวทั่วไป Monday January 23, 2017 14:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราชสุราษฎร์ธานี พัทลุง ยะลา สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 35 อำเภอ 200 ตำบล 1,113 หมู่บ้าน ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 23 - 25มกราคม 2560 ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด 6 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า ฝนที่ตกหนักตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 23 มกราคม 2560 ส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีจังหวัดได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด รวม 124 อำเภอ 778 ตำบล 6,031 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 582,725 ครัวเรือน 1,784,942 คน ผู้เสียชีวิต 85 ราย ผู้สูญหาย 4 ราย ถนน 4,314 จุด คอสะพาน 348 แห่ง ท่อระบายน้ำ 243 แห่ง ฝาย 126 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง สถานที่ราชการเสียหาย 25 แห่ง โรงเรียน 2,336 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 5 จังหวัด ได้แก่ ระนอง กระบี่ ตรัง ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีสถานการณ์ใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง ยะลา สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 35 อำเภอ 200 ตำบล 1,113 หมู่บ้าน โดยนครศรีธรรมราช มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร และอำเภอเชียรใหญ่ รวม 38 ตำบล 337 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,731 ครัวเรือน 167,963 คน อพยพ 181 ครัวเรือน 740 คน ผู้เสียชีวิต 26 ราย สุราษฎร์ธานีมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพุนพิน และอำเภอบ้านนาเดิม รวม 8 ตำบล 18 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,725 ครัวเรือน 5,192 คน ประชาชนอพยพ 38 ครัวเรือน 138 คน ผู้เสียชีวิต 15 ราย พัทลุง มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนขนุน อำเภอบางแก้ว อำเภอเขาชัยสน และอำเภอเมืองพัทลุง รวม 7 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,691 ครัวเรือน 13,641 คน ผู้เสียชีวิต 12 ราย บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 5 หลัง เสียหายบางส่วน 93 หลัง ยะลา มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอรามัน และอำเภอยะหา รวม 25 ตำบล 118 หมู่บ้าน 2 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,399 ครัวเรือน 14,337 คน อพยพ 20 ครัวเรือน80 คน สงขลา มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอระโนด และอำเภอสะบ้าย้อย รวม 12 ตำบล 37 หมู่บ้านประชาชนได้รับผลกระทบ 13,432 ครัวเรือน 39,332 คน ผู้เสียชีวิต 8 ราย ปัตตานี มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอมายอ อำเภอแม่ลาน อำเภอปะนาแระ อำเภอสายบุรี อำเภอไม้แก่น และอำเภอโคกโพธิ์ รวม 44 ตำบล 175 หมู่บ้าน 6 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,657 ครัวเรือน 15,897 คน นราธิวาส มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอตากใบ อำเภอบาเจาะ อำเภอยี่งอ อำเภอระแงะ อำเภอรือเสาะ อำเภอศรีสาคร อำเภอแว้ง อำเภอสุคิริน อำเภอสุไหงโก – ลก อำเภอสุไหงปาดี อำเภอจะแนะ และอำเภอเจาะไอร้อง รวม 66 ตำบล 408 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,212 ครัวเรือน 111,691 คน ทั้งนี้ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยทำความสะอาดบ้านเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์สถานที่ราชการ และซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค รวมถึงเส้นทางคมนาคมให้ใช้งานได้ตามปกติ ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยที่ครอบคลุมทั้งด้านการดำรงชีพ ชีวิตและทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และสิ่งสาธารณประโยชน์ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ในช่วงวันที่ 23 – 25 มกราคม 2560 มีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง 6 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานจังหวัดดังกล่าว และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ววัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ