รัฐมนตรีเกษตรฯ ลงพื้นที่ขอนแก่นตรวจการบ้านซิงเกิลคอมมานด์ พร้อมลงตรวจแปลงใหญ่ผักปลอดภัย –มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ชี้เกษตรกรปรับแผนปลูกตามแนวรัฐ เชื่อภายใน 5 ปีดันแปลงใหญ่ 7 พันแปลงตามเป้า

ข่าวทั่วไป Wednesday February 1, 2017 14:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายนโยบายของกระทรวงเกษตรแบบเบ็ดเสร็จ หรือ ซิงเกิลส์คอมมานด์ จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงเกษตรในปี 2560 และเพื่อคัดเลือกแปลงใหญ่ที่ซิงเกิลคอมมานด์นำเสนอก่อนลงพื้นที่จริง ณ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น ว่า ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯต้องเป็นสมาทร์ออฟฟิตเชอร์ให้ได้ ต้องเก่งก่อนจึงไปสอนเกษตรกรเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ได้ ซึ่งนโยบายของกระทรวงเน้นย้ำให้ทุกพื้นที่นำกระบวนการสหกรณ์มาพัฒนาเกษตรแปลงใหญ่ ร่วมกับจัดโซนนิ่งเกษตร ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ เกษตรผสมผสานตามแนวทษฎีใหม่ ธนาคารเกษตร วางแผนผลิตข้าวครบวงจร จัดที่ดินทำกิน ในพื้นที่สปก. และวางระบบส่งน้ำให้ทั่วถึงพื้นที่เกษตรมากที่สุด เพื่อขับเคลื่อนเกษตรแปลงใหญ่ให้เกิดขึ้นจริงตามที่ได้ตามเป้าหมายกว่า 7,000 แปลงภายในระยะเวลา 5 ปี "เป้าหมายการผลักดันแปลงใหญ่ ใน 5 ปี มี 7,000 แปลง มีการบริหารจัดการที่ดี ผลิตสินค้ามีคุณภาพ โดยในปี59 จากแปลงใหญ่ 600แปลง ทำได้จริง 400 แปลง สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ 1,500 ล้านบาท เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม 4 หมื่นกว่าบาท/ราย ปีนี้อัตราการเพิ่มแปลงใหญ่จะสูงขึ้น โดยหัวใจสำคัญ คือ การนำเอานวตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วย มีการตลาดรองรับ" พลเอกฉัตรชัย กล่าว พลเอกฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า พื้นที่แปลงใหญ่ที่จะลงตรวจเยี่ยมแบบไม่มีการเตรียมการหรือแจ้งล่วงหน้าครั้งนี้ มีด้วยกัน 2 แปลง คือ แปลงผักปลอดภัยกลุ่มเกษตรกรทำสวนบ้านโนนเขลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกตามนโยบายแปลงใหญ่ จากพื้นที่ปลูกข้าวเดิมและปลูกผักเคมีมาเป็นผักปลอดภัย GAP จำนวน 360 ไร่ เกษตรกร 50 ราย ซึ่งนอกจากกระทรวงเกษตรฯ โดยหน่วยงานในพื้นที่จะพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยีการผลิต ยังได้ประสานให้เทสโก้โลตัสเข้ามารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรเฉลี่ย 13,000 กก.รายได้ประมาณ 37,000 บาท/วัน จากนั้นได้ลงพื้นที่วิสาหกิจชุมชนมะม่วงบ้านแฮด ต.หนองแซง อ.บ้านแฮด ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ที่ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง1,323 ไร่ สมาชิก 55 ราย โดยใช้แนวทางของกระทรวงเกษตรเข้ามาบูรณาการทั้งการลดต้นทุน การเพิ่มผลผลิต และดัดแปลงให้มะม่วงออกผลนอกฤดูกาลเพื่อให้ราคาดีขึ้นและการทำตลาดซึ่งกลุ่มเกษตรกรมีการส่งออก กิโลกรัมละ 140 บาท ส่งไปยังเกาหลี 60% ญี่ปุ่น 30% จีนและยุโรปอีก 10% โดยในปี 2559 ส่งออกกว่า 226 ตัน สร้างรายได้กว่า 25 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ