GUNKUL ย้ำ! กังหันลมวินฟาร์มไม่รุกพื้นที่ส.ป.ก. ขอให้ผถห.เชื่อมั่นบริษัทฯ เดินหน้าตามแผนทุกประการ พร้อมลุยโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ หลัง COD ไปแล้ว 60 MW

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 6, 2017 15:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.พ.--IR network บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKU) ยืนยันโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมวินด์ฟาร์มปราศจากการใช้ประโยชน์บนพื้นที่ สปก.ในการพัฒนาโครงการ ระบุพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นโฉนดและพื้นที่เช่าชนิด น.ส.3 ก "โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์" เผยขอให้ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ หลัง COD พลังงานลมไปแล้วกำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ เมื่อปี'59 ระบุกรณีดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงการ ย้ำยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้และหาโอกาสการลงทุนในโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เพิ่มต่อเนื่องทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงกรณีที่ รมว.เกษตรและสหกรณ์ สั่งยกเลิกบริษัทที่ดำเนินโครงการติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ ส.ป.ก.ทุกราย (สัญญาเช่าเมื่อปี 2552 ในพื้นที่ ส.ป.ก.2 จังหวัดคือ จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดชัยภูมิ รวม 20 ราย เนื้อที่กว่า 700 ไร่ ) ซึ่งตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง หากทราบว่าการกระทำใดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้แก้ไข 90 วัน คือ ภายในวันที่ 26 เมษายน 2560 โดยต้องทำตามกฎหมายทุกกรณี ไม่ใช้มาตรา 44 ในประเด็นดังกล่าวนั้น ในส่วนของ GUNKUL ขอยืนยันว่า โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม ของกลุ่มบริษัทฯ จำนวน 3 โครงการ กำลังผลิต รวม 170 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้พัฒนาโครงการโดยใช้ที่ดิน ในพื้นที่โฉนดและพื้นที่เช่าชนิด น.ส.3 ก เป็นส่วนใหญ่ โดยปราศจากการใช้ประโยชน์บนพื้นที่ถูกประกาศให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน และอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ทั้งนี้ เมื่อเดือนมีนาคม 2559 ที่ผ่านมา โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมของ บริษัท พัฒนาพลังงานลม จำกัด (GUNKLU ถือหุ้นในสัดส่วน 99.00%) ได้ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าซับพลูวินด์ฟาร์ม 1 และโครงการโรงไฟฟ้าซับพลูวินด์ฟาร์ม2 กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เรียบร้อยแล้ว และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าวายุวินฟาร์ม กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน "จากกรณีดังกล่าว ขอให้ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินการพัฒนาที่ดินในพื้นที่โฉนดและพื้นที่เช่าชนิด น.ส.3 ก เป็นส่วนใหญ่ ปราศจากการใช้ประโยชน์บนพื้นที่ สปก.ในการพัฒนาโครงการ และประเด็นดังนั้นกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบหรือสร้างความไม่แน่นอนอันเกี่ยวเนื่องกับโครงการในอนาคต โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบันยังมองโอกาสการลงทุนในโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ในรูปแบบพลังงานลมและแสงอาทิตย์เพิ่มเติมทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย"นางสาวโศภชากล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ