ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ 1 จังหวัด เร่งบูรณาการให้ความช่วยเหลือ – ฟื้นฟูให้กลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด

ข่าวทั่วไป Tuesday February 7, 2017 13:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดนครศรีธรรมราช 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากพนัง และอำเภอเชียรใหญ่ รวม 13 ตำบล 59 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,015 ครัวเรือน 3,325 คน ครัวเรือน 5,902 คน ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรเร่งสำรวจข้อมูลความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน ควบคู่กับการสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น รวมถึงฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ฝนที่ตกหนักตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 ส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีจังหวัดได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด รวม 129 อำเภอ 835 ตำบล 6,307 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 587,544 ครัวเรือน 1,815,618 คน ผู้เสียชีวิต 98 ราย ถนน 4,314 จุด คอสะพาน 348 แห่ง ท่อระบายน้ำ 270 แห่ง ฝาย 126 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง สถานที่ราชการเสียหาย 165 แห่ง โรงเรียน 2,336 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 11 จังหวัด ได้แก่ ระนอง กระบี่ ตรัง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สงขลา สุราษฎร์ธานี และพัทลุง ยังคงมีสถานการณ์ในจังหวัดนครศรีธรรมราช 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากพนัง และอำเภอเชียรใหญ่ รวม 13 ตำบล 59 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,015 ครัวเรือน 3,325 คน ครัวเรือน 5,902 คนผู้เสียชีวิต 28 ราย ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยทำความสะอาดบ้านเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์ สถานที่ราชการ และซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค รวมถึงเส้นทางคมนาคมให้ใช้งานได้ตามปกติ ตลอดจนเร่งสำรวจข้อมูลความเสียหายครอบคลุมทั้งด้านด้านการดำรงชีพ ชีวิตและทรัพย์สิน การประกอบอาชีพ และสิ่งสาธารณประโยชน์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ