อธิบดีกรมควบคุมโรค ห่วงไข้เลือดออกระบาด ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานควบคุมโรค

ข่าวทั่วไป Tuesday February 14, 2017 12:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 อธิบดีกรมควบคุมโรคลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ติดตามสถานการณ์โรคไข้เลือดออกหลังเกิดอุทกภัย และพบปะสร้างกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานเครือข่ายสุขภาพด้านการป้องกันโรคไข้เลือดออกในพื้นที่ หลังพบการระบาดของโรคไข้เลือดออกและมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในจังหวัดสงขลา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค เดินทางมาตรวจเยี่ยม ติดตามสถานการณ์โรคไข้เลือดออกและโรคมาลาเรียในจังหวัดสงขลา ณ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เนื่องจากในระหว่างวันที่ 1-31 มกราคม 2560 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในจังหวัดสงขลาแล้วจำนวน 793 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงกว่าปี 2559 ในช่วงเวลาเดียวกันถึง 4 เท่า โดยอำเภอที่พบผู้ป่วยสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ อำเภอหาดใหญ่ จำนวน 273 ราย เสียชีวิต 1 ราย รองลงมาได้แก่ อำเภอเมือง พบผู้ป่วยจำนวน 146 ราย และอำเภอสะเดา พบผู้ป่วยจำนวน 69 ราย ตามลำดับ นอกจากนี้อธิบดีกรมควบคุมโรคยังได้เดินทางไปพบปะเครือข่ายสุขภาพด้านการป้องกันโรคไข้เลือดออกตำบลเขารูปช้าง จังหวัดสงขลา ประกอบด้วยแก่นนำชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และพี่น้องประชาชนกว่า 80 คน ณ ศาลาอเนกประสงค์ลานโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เพื่อเสริมสร้างพลังในการปฏิบัติงานและรับฟังปัญหาการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก พร้อมมอบอุปกรณ์การสำรวจลูกน้ำยุงลายไว้ใช้ในพื้นที่ และท่านอธิบดียังได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนประชาชนตามบ้านเรือน เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจในการป้องกันโรคไข้เลือดออกให้กับพี่น้องประชาชนด้วย นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ยังได้เน้นย้ำถึงการดูแลตัวเองและสิ่งแวดล้อมทั้งในบ้าน รอบบ้าน และพื้นที่ส่วนกลางในชุมชน เช่น วัด โรงเรียน โดยใช้หลัก 3 เก็บ คือ เก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ เพื่อป้องกัน 3 โรค จากยุงลาย คือ โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา โดยต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะในพื้นที่ทีประสบภัยน้ำท่วม เนื่องจากหลังน้ำลดจะมีกองขยะและนำขัง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย หากมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออ่อนเพลีย บางรายมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ควรรีบพบแพทย์ทันที ไม่ควรซื้อยารับประทานเองโดยเฉพาะยาลดไข้กลุ่มแอสไพริน หากมีข้อสงสัยสามารถโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ