ASEFA ผลงานปี 59 มาตามนัดรายได้-กำไรสร้างสถิติใหม่ บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผล 0.32 บาท/หุ้น ชูเป็นหุ้นแกร่งพื้นฐานดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 21, 2017 15:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--IR PLUS ASEFA โชว์ผลงานปี 59 โกยรายได้เฉียด 2,800 ล้านบาท กำไรพุ่ง 39.41% "ไพบูลย์ อังคณากรกุล" เอ็มดีไฟแรง ยิ้มรับผลประกอบการที่ออกมานิวไฮสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งรายได้และกำไร พร้อมใจดีจ่ายปันผล 0.32 บาท/หุ้น เชื่อธุรกิจของบริษัทฯเติบโตสม่ำเสมอ พื้นฐานแกร่ง พร้อมเปิดแผนธุรกิจปี 2560 ตั้งเป้าหมายรายได้ เติบโต 10 - 15% มีแผนเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดตุน Backlog 1,800 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ เล็งสะสมงานในมือเพิ่มเพื่อสร้างรายได้ นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA ผู้ประกอบธุรกิจผลิต จำหน่ายและติดตั้งผลิตภัณฑ์กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า รางและบันไดพาดสายไฟฟ้า โคมไฟและระบบส่องสว่าง งานบริการวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง และงานบริการหลังการขายครบวงจร เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดปี 2559 มีกำไรสุทธิจำนวน 288.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.41% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีกำไรสุทธิ 206.75ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นจำนวน 703.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 25.14% เพิ่มขึ้น 2.79% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนการผลิต ต้นทุนงานโครงการและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 2,799.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 250.03 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.81.% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายจากการขายและบริการอยู่ที่ 2,549.60ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น 349.01 ล้านบาท หรือคิดเป็น 21.32% รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาเพื่อจำหน่ายต่อเพิ่มขึ้น 64.52 ล้านบาท คิดเป็น 17.41% ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายการลงทุนในโครงการต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น สำหรับรายได้จากโครงการรื้อถอนโรงไฟฟ้าบางปะกงลดลง 94.62 ล้านบาท คิดเป็น 18.88% เนื่องจากบริษัทได้ชะลอขายวัสดุในกลุ่มเหล็กและทองแดง จากผลกระทบในเรื่องของราคาตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง "บริษัทฯ พอใจกับผลงานที่ออกมา ทั้งรายได้และกำไรสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ซึ่งผลงานในปี 2559 ที่เติบโตอย่างน่าประทับใจเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2560 และบางส่วนในปี 2561 ซึ่งจะสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง" นายไพบูลย์ กล่าว นอกจากนี้ ที่ประชุมกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนิงานประจำปี 2559 ในอัตราหุ้นละ 0.32 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 2 พฤษภาคม 2560 และจ่ายปันผลวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 เพื่อเป็นการขอบคุณผู้ถือหุ้นและมั่นใจว่าจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง กับผลประกอบการของบริษัทฯ นายไพบูลย์ กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ เติบโต 10 - 15% โดยบริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลและเสนองานทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด(มาร์เกตแชร์) ให้มากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีมาร์เกตแชร์อยู่ที่ประมาณ 10% และมีสัดส่วนงานของภาคเอกชน 70-80% และงานภาครัฐ 20-30% ทั้งนี้เชื่อว่าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้าและงานบริการวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ