“โกลเบล็ก” มองหุ้นไทยขาดปัจจัยหนุน ให้กรอบดัชนี 1,560 – 1,590 จุด- แนะเก็งกำไรหุ้นกลุ่มเหล็ก-เดินเรือ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 22, 2017 11:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บล.โกลเบล็ก เผยหุ้นไทยขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนใหม่ แนะจับตาเฟด แจงผลการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.2560 ที่ผ่านมา และการรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้าของกระทรวงพาณิชย์ 27 ก.พ.นี้ พร้อมทั้งการรายงานภาวะเศรษฐกิจโดยแบงก์ชาติ ประเมินดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,560 – 1,590 จุด แนะลงทุนหุ้นกลุ่มเหล็ก อานิสงส์ราคาเหล็กรีดร้อนพุ่งแตะ 615 ดอลลาร์ต่อตัน และหุ้นกลุ่มเดินเรือรับค่าระวางเรือฟื้นตัว ด้านราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัวลุ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,250 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวรับที่ 1,210 เหรียญต่อทรอยออนซ์ น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกราคาน้ำมันดีดทรงตัวระดับสูง หลังกลุ่มในและนอกโอเปกอาจจับมือเพื่อขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไป (จากเดิม 6 เดือน) รวมทั้งการเตรียมประกาศแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันที่ 28 ก.พ. และการที่สภาพัฒน์เผย GDP ทั้งปี 59 เติบโต 3.2% ตามคาด รวมทั้ง consensus คาดการณ์ GDP ปี 60 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปี 59 ในอัตราที่ใกล้เคียงกับการเติบโตในปี 59 ส่วนปัจจัยลบที่คาดว่าจะมีผลเชิงลบต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นความผันผวนของ Fund Flow ต่างชาติจากนโยบายเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ และความผันผวนของแรงขาย Sell on fact หลังประกาศงบและปันผลปี 2559 อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 22 ก.พ. ทางคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของสหรัฐ (เฟด) จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.2560 และในวันที่ 27 ก.พ. กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า รวมทั้งวันที่ 28 ก.พ. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยภาวะตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน ประกอบกับแรงกดดันจากความผันผวนของ Fund Flow ต่างชาติตามนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามคาดจะมีแรงซื้อดักงบและเงินปันผลปี 2559 เข้ามาพยุงดัชนีในช่วงอ่อนตัว ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,560 – 1,590 จุด ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุน ซื้อเก็งกำไร แบบ Selective Buy ในกลุ่มเหล็ก ซึ่งคาดว่างบปี 2559 จะเติบโตขึ้น รวมถึงราคาเหล็กรีดร้อนทรงตัวระดับสูงล่าสุด 615 ดอลลาร์ต่อตัน และกลุ่มเดินเรือ ค่าระวางเรือมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นโดย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 10.5% สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำตลาดโลกในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (15-21 ก.พ.2560) ดีดกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดที่ 1,216 ดอลลาร์ มาแตะจุดสูงสุดที่ 1,244 ดอลลาร์ แล้วทรงตัวในกรอบที่แคบลงในช่วงดังกล่าว โดยนักลงทุนต่างชะลอการซื้อขายเพื่อรอปัจจัยใหม่มาสนับสนุน หลังจากดัชนีดาวโจนส์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง และความกังวลที่มีต่อความเสี่ยงในแถบยูโรโซนที่สูงขึ้นจากประเด็นการเดินหน้ากระบวนการ Brexit และความกังวลจากการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในเนเธอร์แลนด์และฝรั่งเศส ซึ่งอาจนำไปสู่การแยกสกุลเงิน และ/หรือ การแยกตัวจากกลุ่มในอนาคต ส่งผลให้การอนุมัติความช่วยเหลือด้านการเงินรอบใหม่ให้แก่กรีซที่กำลังจะมีขึ้นอาจมีความเห็นที่ขัดแย้งกันมากขึ้นในกลุ่มทรอยก้า ซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงเรื่อง Grexit สูงขึ้น เป็นปัจจัยกดให้ค่าเงินยูโรอ่อนลงและหนุนให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ขณะที่ความคาดหวังต่อการออกมาตรการด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ยังคงสร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดการเงิน ดังนั้น การปรับฐานของราคาทองคำจึงยังคงดำเนินต่อไปบนความเสี่ยงที่รอการกลับเข้ามาหนุนราคาอีกครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับการสะสมของกองทุนSPDR ที่เริ่มชะลอลง โดยในช่วงปลายสัปดาห์มีการขายสุทธิเล็กน้อย 2.37 ตัน แต่การถือครองยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า โดยอยู่ที่ 841.17 ตัน จึงยังคงให้น้ำหนักต่อการมีสถานะ "ซื้อ" ในจังหวะที่ราคาอ่อนตัวลงมาตามการคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะแกว่งตัว sideway ในกรอบจำกัด โดยให้ถือเพื่อรอขายในช่วงที่มีการ breakout ขึ้นไปเหนือ 1,250 ดอลลาร์ ส่วนจุด stop loss ยังคงให้ที่ 1,200 ดอลลาร์ ซึ่งในกรณีที่หลุดระดับ 1,215 ดอลลาร์นักลงทุนควรปรับลดสถานะ long ในพอร์ตลง แล้วปรับกลยุทธ์มาเล่น swing trade มากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ