ปภ. เตือน 26 จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเตรียมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน ช่วงวันที่ 23 - 26 กุมภาพันธ์ 2560

ข่าวทั่วไป Thursday February 23, 2017 17:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 26 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศแปรปรวนในช่วงวันที่ 23 - 26 กุมภาพันธ์ 2560 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที รวมถึงตรวจสอบสิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ตัดแต่งกิ่งไม้บริเวณริมถนนและในพื้นที่ชุมชน เพื่อป้องกันอันตรายจากการล้มทับในช่วงที่มีลมกระโชกแรง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนได้แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส ซึ่งมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้ ในช่วงวันที่ 23 – 25 กุมภาพันธ์ 2560 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา และภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด และในช่วงวันที่ 24 – 26 กุมภาพันธ์ 2560 ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง บริเวณจังหวัดลพบุรี และสระบุรี ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสาน 26 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และพิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ภาคกลาง จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทุบรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครนายก และกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว เตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการระงับเหตุทันทีที่เกิดภัย รวมถึงตรวจสอบสิ่งก่อสร้างในพื้นที่สาธารณะและป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ตัดแต่งกิ่งไม้บริเวณริมถนนและในพื้นที่ชุมชน เพื่อป้องกันอันตรายจากการล้มทับ พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวน โดยดำเนินการผ่านวิทยุกระจายเสียง เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี และสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ส่วนเกษตรกรควรจัดทำที่กำบังปกคลุมพืชผลการเกษตร เพื่อป้องกันผลผลิตได้รับความเสียหายจากลมพัดแรง ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสภาพอากาศแปรปรวนและลมพัดแรง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ