กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--
หากพูดถึงคอมมูนิตี้ มอลล์ หลายคนมักจะนึกถึงแหล่งให้ความบันเทิงที่คนรุ่นใหม่ ที่มักมีไลฟ์สไตล์ไปแฮงค์เอ้าท์ ทั้งช็อปปิ้ง กิน ดื่ม เที่ยว หรือสังสรรค์กันในกลุ่มเพื่อน แต่ด้วยเทรนด์การใช้ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบันที่หันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของการสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ รูปแบบใหม่ที่เน้นตอบโจทย์ทั้งเรื่องของสุขภาพและไลฟ์สไตล์ควบคู่กัน อย่าง "RQ 49" Health & Lifestyle Mall (อาร์ คิว 49 เฮลธ์ แอนด์ ไลฟ์สไตล์ มอลล์) ที่ให้บริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจรแห่งแรกใจกลางสุขุมวิท 49
"RQ 49" Health & Lifestyle Mall (อาร์ คิว 49 เฮลธ์ แอนด์ ไลฟ์สไตล์ มอลล์)ลักชัวรี่ คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ให้บริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจรแห่งแรกใจกลางสุขุมวิท 49 ที่สร้างสรรค์มาเพื่อกลุ่มคนที่รักสุขภาพและใส่ใจตัวเองโดยเฉพาะ ภายใต้การบริหารของ บริษัทอาร์ คิว 49 มอลล์ จำกัดมุ่งเน้นให้ผู้ที่เข้ามาสัมผัสได้รับบริการด้านสุขภาพ ความงาม และการบริโภคอาหารชั้นนำไปในแบบฉบับเจแปน เลิฟเวอร์ โดยมีที่มาจากคอนเซ็ปต์ของมอลล์ที่มีความแปลกใหม่เอาใจกลุ่มลูกค้าทั้งไทยและญี่ปุ่นเป็นหลัก จึงได้ออกแบบและตกแต่งสถานที่สไตล์เจเปน โมเดิร์น ที่มีส่วนผสมของไม้ให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังเดินอยู่บนถนนโอโมเตะซันโด (Omotesando) ซึ่งเป็นถนนช็อปปิ้งในย่านฮาราจูกุ (Harajuku) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง นอกจากการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแล้ว "RQ 49" Health & Lifestyle Mall ยังได้รวมบริการด้านสุขภาพที่เป็นศูนย์สุขภาพครบวงจรสไตล์ลักชัวรี่ ร้านเสริมความงามสำหรับคุณสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ และอาหารที่เป็นสไตล์แบบญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมมาไว้ที่นี่ที่เดียวรวมกว่า 10 ร้านด้วยกัน ทำให้ "อาร์คิว 49" ตอบโจทย์การเข้าถึงได้ง่ายทั้งในเรื่องของไลฟ์สไตล์และการเดินทางเนื่องจากอยู่ใจกลางเมือง อีกทั้งยังพร้อมอำนวยความสะดวกด้านที่จอดรถที่สามารถรองรับผู้มาใช้บริการได้ถึง 40 คัน ซึ่งบริการทั้งหมดของมอลล์มีทั้งหมด 4 ชั้น ดังนี้
Floor 1st
- ร้าน เอส แอนด์ พี (S&P) เบอร์เกอรี่ขึ้นชื่อของเมืองไทย
- ร้าน "CRACK" (แคร็ก) ร้านบรันช์และขนมวัตถุดิบคุณภาพดีสไตล์ฟิวชั่น
"CRACK" น้องใหม่ที่มากประสบการณ์ จากการเดินทางตามหาสูตรผสมที่ลงตัวจากทั่วโลก ทั้ง วัฟเฟิล สูตรต้นตำรับจากกรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม หรือจะเป็น แพนเค้ก ที่ทำสดๆ แบบชิ้นต่อชิ้น กลิ่นหอมกรุ่นจากเตา จากซัปโปโร ที่ผู้ก่อตั้งร้าน วรกฤต สกุลเลี่ยว และเพื่อนๆ ผู้ร่วมก่อตั้ง ทดลองทำไปกว่า 2,000 ชิ้น กว่าจะได้ วัฟเฟิล เสียง "แคร็ก!" และรสชาติได้ตามที่ตั้งใจ สำหรับเมนูไฮไลท์ ได้แก่ Brussels Crack Waffle (บรัสเซล แคร็ก วัฟเฟิล) วัฟเฟิลสูตรและวัตถุดิบต้นตำรับจากบรัสเซล เบลเยี่ยมเป็นเมนูที่กินง่ายไม่ซับซ้อน และให้รสชาติที่ละมุนลิ้น, Madagascan Creamy Sapporo Pancake (มาดากัสการ์ ครีมมี่ ซัปโปโร แพนเค้ก) ซึ่งประกอบด้วยแพนเค้กเนื้อนุ่ม และครีมวนิลาโฮมเมด ที่ใช้วนิลานำเข้าจากมาดากัสการ์ทั้งฝัก จับคู่กับไอศครีมแบบโฮมเมด ที่ให้รสชาติถูกปากคอขนมหวาน รวมไปถึงเมนูบรันช์ Nara Wasabi Smoked Salmon Waffle(นารา วาซาบิ สโม้ก แซลม่อน วัฟเฟิล) ตัวนี้จะเป็นวัฟเฟิลชีส จับคู่กับผักไวด์รอคเกต ซอสวาซาบิสูตร Home made ปลาแซลมอนรมควัน ตัดทั้งคาวทั้งเลี่ยนไปได้ทันที
Floor 2nd อาหารและความงาม
- ร้านไดกิ (DAIKI Original)
DAIKI Original ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ ใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่คุณภาพของวัตถุดิบ ปรุงรสโดยเชฟระดับแถวหน้าของเมืองไทยด้วยความตั้งใจที่จะทำร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้บรรยากาศที่ให้ความสบาย อบอุ่นและเป็นส่วนตัว ในปี 2015 DAIKI จึงถือกำเนิดขึ้น ภายใต้แนวคิดของการเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เน้นอาหารสดใหม่ ถูกหลักอนามัย ปลอดภัย และใส่ใจเรื่องความอร่อยเป็นหัวใจของร้านทุกเมนูของเรานั้นผ่านการปรุงรสจากเชฟชั้นนำ ผู้มีประสบการณ์ในการทำอาหารญี่ปุ่นมานานกว่า 30 ปี และคุ้นเคยกับวัตถุดิบที่ใช้ในเมนูอาหารญี่ปุ่นอย่างดี ด้วยการคิดค้นเทคนิคสูตรอาหารที่ผสมผสานระหว่างต้นตำรับกับอาหารสไตล์ฟิวชั่น จนได้รสชาติที่ลงตัวตามแบบฉบับของ DAIKI Original ที่เราอยากให้ถูกปากคนไทย แต่ยังคงมีความน่าหลงใหลและน่าทึ่งในแบบอาหารญี่ปุ่นไว้อย่างเต็มเปี่ยมด้วยปณิธานที่เรายึดถือตั้งแต่ห้องครัวจนกระทั่งนำเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ ด้วยกฎ 3 ข้อ ที่ตั้งใจมอบให้กับลูกค้าทุกท่าน นั่นคือ Fabulous & Friendlyเชฟของเราเชื่อว่า "ความสดใหม่" เป็นกุญแจสำคัญที่นำมาซึ่งรสชาติความอร่อย DAIKI จึงสั่งตรงวัตถุดิบคุณภาพพรีเมี่ยมมาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง โดยไม่ต้องบินไกลไปถึงเจแปน ด้วยเทคนิคการปรุงอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่าง เราไม่มองข้าม แม้แต่เรื่องการหุงข้าวให้นุ่มหอมพร้อมรับประทาน น้ำซุปรสข้นที่ผ่านการเคี่ยวไฟมาอย่างยาวนาน สำหรับคนชอบทานปลาดิบ พลาดไม่ได้กับซูชิและซาชิมิ ในลุคฟิวชั่นที่ให้ความสดใหม่ และรสชาติลุ่มลึกในแบบสไตล์ญี่ปุ่น ขนานแท้ อิ่มท้องพร้อมสรรพไปด้วยเมนูอีกมากมายให้เลือกสรร ทุกเมนูจัดเสิร์ฟ บนจานหน้าตาสะสวย ชวนให้รับประทาน เรียกได้ว่าน่าประทับใจ คุ้มค่าทั้งด้านคุณภาพ รสชาติอาหาร และคุ้มกับราคาที่จ่ายไปอย่างแน่นอน Service with Heartบนทำเลของร้านที่ตั้งอยู่สุขุมวิท แม้ภายนอกจะพลุกพล่าน วุ่นวาย หากแต่เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในร้าน DAIKI เราได้เตรียมพร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยรอยยิ้มและความจริงใจ จากพนักงานที่ผ่านการอบรมมาอย่างดีเยี่ยม เพื่อให้ช่วงเวลาของมื้ออาหารอบอวลไปด้วยความประทับใจ ผ่อนคลายและเป็นกันเอง อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร้าน DAIKI และ Love to sit, Love to shareบางครั้งความสุขในชีวิตก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆใกล้ตัวเรา เพียงแค่การใช้เวลาอยู่กับคนที่เข้าใจ คน ที่คุ้นเคย เราจึงอยากให้ประสบการณ์ความอร่อยสร้างเรื่องราวดีๆ ที่คุณและคนที่คุณรักมีร่วมกัน โดยจัดพื้นที่ไพรเวทห้องวีไอพีที่สามารถรับรองลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ให้เพื่อนสนิทได้หัวเราะกันสุดเสียง ให้ครอบครัวได้ผ่อนคลาย เหมือนห้องอาหารที่บ้าน โดยมีเชฟและพนักงาน ทำหน้าที่เสิร์ฟความอร่อยให้อิ่มหมีพีมัน และส่งความสุข ความอิ่มอกอิ่มใจ เติมเต็มให้เป็นมื้ออาหารที่ดีอีกมื้อหนึ่งของคุณ...โดยมีราคาอาหาร ค่าเฉลี่ยที่ 500-800 บาท ต่ำสุด 80 บาท สูงสุด 15,000 บาท
- ร้านโจโชเคน (Jyoshoken Ramen)
ร้านราเมงสไตล์ญี่ปุ่นแบบดังเดิมของเชฟ Koji Tashiro ซึ่งเป็นเซฟระดับแถวหน้าของญี่ปุ่น มีร้านในเครือทั่วโลกกว่า 200 สาขา หน้าร้านและไตล์การตกแต่งการมีความเป็นเจแปนนิส สไตล์ ไม่ซ้ำ และยิ่งเป็นเมนูราเมนล่ะก็ร้านนี้เค้ารับประกันว่าถูกใจคอราเมนทั้งหลายให้ได้มาลิ้มลองรสชาติอร่อยแบบญี่ปุ่นที่ไม่ต้องบินไปกินไกลแน่นอน สำหรับร้านราเมนแห่งนี้ขึ้นชื่อและมีความพิเศษที่แตกต่างจากราเมนทั่วไปที่รสชาติของน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นที่ผ่านการปรุงแต่งโดยเชฟมือทองที่มีความชำนาญการด้านรสชาติอาหารในแบบญี่ปุ่นโดยเฉพาะ บวกกับเส้นมาเรมที่มีความเหนียวหนึบกำลังดี ยิ่งทำให้ทุกชามที่ยกเสิร์ฟอร่อยจนต้องบอกต่อ ด้วยเมนูเด็ด อาทิ Jyoshoken Tsukemen มีความโดดเด่นด้วยการแยกเส้นและน้ำซุปที่เข้มข้นออกจากกัน และJyoshoken Ramen สูตรน้ำซุป 60 ปี แบบต้นตำรับราเมง โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 99 บาท
- ร้านคิมิโยะ-จี (Kimiyo-G)
ร้านเสริมความงามสไตล์ญี่ปุ่นที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ 25-55 ปี โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก ความสวยงามของญี่ปุ่น(Japanese aesthetic concept) แบบดังเดิม (traditional methods)ความงามที่เป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น ซึ่งสอดคล้องความหมายของชื่อร้าน Kimiyoที่แปลว่า ความงามแห่งศตวรรต (Beauty of the century) ที่หมายถึง ความงามที่ทุกคนมีมาตั้งแต่กำเนิด หรือ สวยในแบบฉบับของคุณ เน้นการเสริมความงามแบบธรรมชาติ งามอย่างหมดจด และบริการอย่างละเอียดอ่อนเข้าด้วยกันซึ่งตอบโจทย์คุณสุภาพสตรีในปัจจุบัน สำหรับริการของร้านคิมิโยะ-จี เราให้บริการตั้งแต่การทำทรีตเม้นท์ทั้งใบหน้าและลำตัว และการดูแลเล็บมือและเท้าของคุณ ด้วยบริกรที่มีความชำนาญการได้รับการฝึกด้วยวิธีการตามแบบดั่งเดิมของญี่ปุ่น โดยการใช้ทั้งมือ และ เครื่องมือที่ทันสมัย อีกทั้งคิมิโยะ-จี ยังให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีมาตฐานคุณภาพระดับสูง จากญี่ปุ่น อเมริกา สเปน ฝรั่งเศส และเยอรมัน เป็นต้น ประกอบกับการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังพนักงานทุกคนยังให้บริการลูกค้าภายใต้ 6 คอนเซ็ปต์ที่สำคัญคือ ลูกค้าถูกเสมอ, ดูแลใส่ใจเสมอ, ไม่หยุดที่จะปรับปรุง ในมาตรฐานและคุณภาพ ให้ดีขึ้นเสมอ, ใช้วิธีการแบบดั้งเดิมผ่าน เทคโนโลยี่ที่ทันสมัย ในการบริการ, มุ่งเน้นที่ผลงาน และบริการที่ยอดเยี่ยมและแสนพิเศษ
- ร้าน MAl (มาอิ แฮร์ ซาลอน)
เป็นอีกหนึ่งร้านที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับตัวคุณเองกับร้านซาลอนที่ตกแต่งสไตล์ Strong, Smart and Cool ที่มีชื่อร้านว่าMAl (มาอิ) ซึ่งมาจากชื่อของคุณไมล์เจ้าของร้าน และยังสอดคล้องในภาษาญี่ปุนที่แปลความว่าทุกๆวัน หรือ ทุกๆครั้ง จึงได้ความหมายรวมกันว่ามาได้ทุกครั้งที่ต้องการตัดผมให้นึกถึงเรา โดยคอนเซ็ปต์หลักของร้านเน้นความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการว่าคุณจะได้ทรงผมที่มีคุณภาพและถูกใจกลับบ้านแน่นอนหากคุณมาหาเรา ดังคอนเซ็ปต์ที่ว่า "believe in beauty,believe in us" โดยจุดเด่นของร้านมาอิที่แตกต่างจากร้านบาร์เบอร์ทั่วไป นั่นก็คือทางร้านจะใช้scissor's techniques เป็นเทคนิคหลักนั่นก็คือการใช้กรรไกรเกือบร้อยเปอร์เซ็นในการตัดผมและปรับแต่งรูปทรงของกระโหลกศรีษะ ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ต้องใช้ช่างผู้ชำนาญการโดยเฉพาะ ซึ่งที่นี่เองได้คัดสรรช่างที่มีประการณ์กว่า 20 ปี มาเพื่อให้บริการกับลูกค้า การันตีฝีมือโดยเจ้าของร้านที่เป็นหนึ่งใน External Educator ของ Shiseido Professionalที่ฝึกอบรมการตัดผมให้ช่างตัดผมทั้งไทยและญี่ปุ่นนั่นเอง ราคาเริ่มต้นสำหรับการตัดผมเริ่มต้นที่ 450,600,และ 800 บาท และราคาทำสีเริ่มต้นที่2,500-4,500 บาท
Floor 3rd ปรับบุคลิกภาพและดูแลร่างกาย
- ร้าน Honetsugi (โฮเน็ทสึกิ)
คลินิกฟื้นฟูกระดูกและข้ออันดับ 1 ในญี่ปุ่น ถือเป็นครั้งแรกที่ได้มีการมาเปิดสาขาในต่างประเทศ ให้บริการด้านการฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อ โดยผู้เชี่ยวชาญทางวีชาชีพโดยเฉพาะ ซึ่งนวัตกรรมนี้มีต้นกำเนิดมาจากการบำบัดนักกีฬายูโดของประเทศญี่ปุ่น ใช้ความรู้และเทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับร่างกายมนุษย์ เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างร่างการของผู้ป่วยหรือเรียกกันว่า หมอจัดกระดูกนักยูโด ซึ่งต่างจากการนวดกดจุด หรือนวดอโรม่าต่างๆ ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะเป็นวัยทำงานที่มีปัญหาระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยทางคลินิกจะมีโปรแกรมการรักษาหลายรูปแบบเช่น โปรแกรมการรักษาโครงสร้างของร่างกายที่ผิดปกติจากการใช้ชีวิตประจำวัน โปรแกรมการปรับกระดูกเชิงกรานหลังคลอด โปรแกรมสำหรับผู้ที่มีกระดูกสันหลังคด โปรแกรมแก้การอักเสบของข้อต่อที่เกิดจากอุบัติเหตุ เช่นข้อเท้าพลิก โปรแกรมทั้งหมดนี้จะช่วยส่งเสริมให้คุณมีบุคคลิกภาพที่ดีและนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
- REGINA BEAUTY (เรจิน่า บิวตี้)
ซาลอนกำจัดขนสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า "กำจัดขนที่กรุงเทพต้องมาเรจีน่า ปลอดภัย มั่นใจได้"
โดยเน้นบริการที่ความสบายใจและปลอดภัยด้วยอุปกรณ์จากญี่ปุ่นเพื่อรองรับลักษณะผิวของคนเอเชียโดยเฉพาะและกำจัดขนด้วยวิธีการ SSC ที่เป็นการฉายแสงโดยแสงที่ใช้ฉายนั้นจะทำปฏิกิริยากับเจลชนิดพิเศษเท่านั้น ไม่ต้องกังวลว่าแสงจะไปทำลายเนื้อเยื่อผิวโดยตรงซึ่งวิธีนี้มีที่เรจีน่าที่เดียวเท่านั้น ซึ่งเจลชนิดพิเศษหรือโลชั่นถนอมผิวนี้ที่ถือได้ว่าเจลกำจัดขนสูตรเรจีน่าได้พัฒนาเจลชนิดพิเศษที่มีส่วนผสมจากพืช เช่น สารสกัดจากเปลือกต้นวิลโลว์และอื่นๆ อีก 20 ชนิด ที่ทำให้ผิวขาวสวยเป็นธรรมชาติ แตกต่างกับการกำจัดขนแบบดั้งเดิมที่ใช้โคมไฟซีนอนในการฉายซึ่งเป็นวิธีการกำจัดขนที่ให้แสงมารวมตัวกันที่จุด (สีดำ) ฉายแสงเพื่อไปเผาขนและรากขน ทำให้ทุกครั้งที่ถูกแสงจะรู้สึกเจ็บได้ง่ายและอาจเกิดการอักเสบได้นั่นเอง ซึ่งนอกจากบริการด้านการกำจัดขนแล้ว เรจีน่ายังให้บริการด้านทรีตเม้นท์หน้า และ การมาร์สหน้าขาวอีกด้วย โดยราคาในการให้บริการเริ่มต้นที่ 980 บาท
Floor 4th ศูนย์สุขภาพ
- เซ็นทรัล กรีน คลินิก (Central Green Clinic)
ศูนย์สุขภาพลักชัวรี่แบบครบวงจรที่สามารถการันตีได้ถึงความปลอดภัยด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้การรักษาม ด้วยบรรยากาศภายในที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์เจแนนิสทำให้รู้สึกอบอุ่นสบายๆ บวกกับการปูพื้นด้วยสีขาวทำให้รู้สึกสะอาดตาแก่ผู้ที่มาใช้บริการ สำหรับเซ็นทรัล กรีน คลินิก เปิดบริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ การตรวจรักษาโรคด้านต่างๆ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในด้านอายุกรรม, ด้านสูตินารีเวช, ด้านกุมารเวช, ด้านผิวหนัง และการตรวจเอ็กซเรย์ด้วยทั้งเครื่องมือที่ปลอดภัยและทันสมัยได้มาตราฐานสากล ห้องตรวจที่พร้อมรองรับผู้ป่วยพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมด้วยพนักงานที่ให้บริการสามารถสื่อสารได้ 3 ภาษา ทั้ง ภาษาไทย อังกฤษ และ ญี่ปุ่น เพื่อความพร้อมในการให้บริการชาวต่างชาติเปิดให้บริการ 8.00-20.00 น. ซึ่งสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ต้องการความความรวดเร็ว ทำให้ไม่ต้องวุ่นวายต่อคิวนานในโรงพยาบาล และได้รับความเป็นส่วนตัวด้วยบรรยากศสบายๆ ผู้คนไม่พลุกพลาน และที่สำคัญการให้บริการแบบเป็นกันเองจนทำให้คุณดูเป็นคนสำคัญในครอบครัว
สำหรับโครงการ "RQ 49" Health & Lifestyle Mall (อาร์ คิว 49 เฮลธ์ แอนด์ ไลฟ์สไตล์ มอลล์)ที่ให้บริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจรแห่งแรกใจกลางสุขุมวิท 49พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00. น. – 22.00น. คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับร้านค้า ได้ที่ facebook/rq49mall หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.02-715-0206, 082-749-4994