กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--IR PLUS
COM7 ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกไอที มั่นใจปี 60 ผลงานไม่น้อยหน้า ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีโตแตะ 19,000 ลบ. จากการรุกตลาดไอทีต่อเนื่องในทุกช่องทาง เตรียมขยายสาขาใหม่เพิ่มปีนี้ 50 สาขา พร้อมรุกตลาดออนไลน์และธุรกิจในมืออย่างจริงจัง "สุระ คณิตทวีกุล" แม่ทัพใหญ่ เผย COM7 ยังได้ปัจจัยหนุนจากสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศ และความสามารถในการทำกำไร จากการซื้อสินค้าได้โดยตรงจาก Apple และความสำเร็จในการจับมือเป็นพันธมิตรกับ True ตอกย้ำด้วยผลงานปี 59 ทุบสถิติรายได้กำไรทำนิวไฮ โดยกำไรสุทธิโตกว่า 50% อยู่ที่ 404.4 ลบ. รายได้รวมโตเกือบ 15% อยู่ที่ 17,211.6 ลบ. จากการเดินตามแผนธุรกิจ มียอดขายสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนพุ่งแรงสุด หนุน COM7 ขายสมาร์ทโฟนในปีที่ผ่านมาได้กว่า 2 แสนเครื่อง รวมทั้งการเปิดตัว iPhone SE และ iPhone 7& iPhone7 Plus ที่เข้ามาล้น แถมได้มาร์จิ้นดีกว่าเดิม นอกจากนี้ การลงทุนซื้อกิจการจาก BKK หนุนสาขาสิ้นปี 59 รวมกันอยู่ที่ 325 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ บอร์ดใจดี อนุมัติจ่ายปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นอีก 0.25 บาท กำหนดจ่าย 19 พ.ค.นี้
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทย ในนาม BaNANA, Studio 7, BKK และ iCare เปิดเผยถึง กลยุทธ์ธุรกิจปี 2560 วางเป้าหมายรายได้ทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 10% จากการขยายธุรกิจในทุกช่องทาง และการต่อยอดในธุรกิจที่มีศักยภาพ พร้อมตั้งเป้าขยายสาขาภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ จำนวน 50 สาขา พร้อมรุกตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง มุ่งมั่นพัฒนาเว็บไซด์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และสามารถแข่งขันได้ รวมทั้ง การให้บริการหลังการขาย โดยมุ่งเน้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าที่ปัจจุบันมีกว่า 2 ล้านราย ให้มีความมั่นคงและเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ธุรกิจโซลูชั่นภายใต้การบริหารงานของ BaNANA Business ได้เปิดให้บริการอย่างครบวงจรที่พันธุ์ทิพย์ประตูน้ำเรียบร้อยแล้ว เพื่อรุกผู้ประกอบการกลุ่ม SME โดยในปีที่ผ่านมาทำรายได้กว่า 200ล้านบาท และตั้งเป้าปีนี้จะสร้างรายได้กว่า 700 ล้านบาท ขณะที่ iCare ศูนย์ซ่อมและให้บริการสินค้า Apple มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก สร้างรายได้ในปีที่ผ่านมากว่า 200 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องได้ในระยะยาว ขณะที่การจับมือเป็นพันธมิตรรายสำคัญในกลุ่ม TRUE เพื่อบริหารจัดการขายสินค้าและการให้บริการในจุดบริการลูกค้าทรู 166 สาขา เมื่อสิ้นปี 2559 บริษัทฯ เปิดให้บริการไปแล้ว 44 สาขา และเริ่มรับรู้เป็นกำไรเข้ามาสนับสนุนแล้ว พร้อมตั้งเป้าจะเปิดครบทุกสาขาได้ภายในปี 2560 ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างรายได้และกำไรในปีนี้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องได้
สำหรับผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยงวดประจำปี 2559 มีรายได้รวมอยู่ที่ 17,211.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8% เมื่อเทียบกับปี 2558 อยู่ที่ 14,988.7 ล้านบาท เนื่องการจากเติบโตยอดขายของกลุ่มสมาร์ทโฟน และแล็ปท็อป รวมทั้งรายได้อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นจากการได้รับสนับสนุนค่าการตลาด ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 2,366.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 475.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 25.2% จากการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงในกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน รวมทั้ง การได้รับสินค้าโดยตรงจาก Apple South Asia (Thailand) Limited และการร่วมเป็นพันธมิตรกับ TRUE สนับสนุนให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 404.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.3% ต่อรายได้รวม จากปี 2558 อยู่ที่ 268.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.8% ต่อรายได้รวม คิดเป็นกำไรสุทธิที่เติบโตเพิ่มขึ้น 50.6%
ด้านที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.25 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 25 เม.ย. 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นใน วันที่ 19 พฤษภาคม 2560 ตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา
"ในปี 2559 นับเป็นอีกปีที่เราทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม รายได้และกำไรทำนิวไฮต่อเนื่อง จากความสำเร็จในการทำการตลาด นำเสนอสินค้าที่ได้รับความนิยมและมีอัตรากำไรที่ดี สนับสนุนให้บริษัทฯ มียอดขายต่อบิลที่มีมูลค่าสูงขึ้น โดยสินค้ากลุ่มโทรศัพท์มือถือเป็นดาวเด่น มีสัดส่วนรายได้กว่า 56% ของรายได้จากการขายและการบริการ ทำให้ปี 2559 บริษัทฯ สามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 2 แสนเครื่อง ในขณะที่สินค้าแบรนด์ Apple ก็มีการเติบโตขึ้นด้วย โดยเฉพาะการเปิดตัวขาย iPhone SE และ iPhone7 & iPhone7 Plus ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างมาก ซึ่ง COM7 ได้รับประโยชน์เต็มๆ จากการซื้อสินค้าโดยตรงจาก Apple ทำให้ได้รับสินค้าในปริมาณที่เพิ่มขึ้นและเพียงพอในการขาย ขณะที่ มาร์จิ้นอยู่ในระดับที่ดีกว่าเดิม" นายสุระ กล่าว
นอกจากนี้ การจัดโปรโมชั่นร่วมกับ TRUE ทำให้ได้รับส่วนแบ่งรายได้ในการขายซิมพร้อมแพ็คเกจของ TRUE มากขึ้น ซึ่งเริ่มในไตรมาส 2/2559 สนับสนุนให้ยอดขายเครื่องพ่วงซิมของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกค่ายเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาดีขึ้น นอกจากนี้ การเข้าไปซื้อทรัพย์สินของร้านโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เทคโนโลยีของ BKK จำนวน 44 สาขา รวมทั้งได้รับอานิสงส์จากนโยบายช็อปช่วยชาติในเดือนธันวาคม 2559 เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนยอดขายและกำไรบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างน่าประทับใจ
ทั้งนี้ สิ้นปี 2559 บริษัทฯ มีจำนวนสาขารวมกันทั้งสิ้น 325 สาขา ได้แก่ BaNANA 161 สาขา , Studio 7 จำนวน 94 สาขา , Samsung 10 สาขา , iCare 20 สาขา และ Bkk 40 สาขา ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีที่มีสาขามากที่สุดกว่า 300 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ