กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดันโครงการ "Promoting I with I" ผนึก 5 หน่วยงาน ขับเคลื่อน Start – up สนองนโยบาย 4.0

ข่าวทั่วไป Monday March 6, 2017 10:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--outdoor pr กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย TCELS ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) ร่วมกับ 5 หน่วยงาน ผลักดันโครงการ "Promoting I with I" ส่งเสริมสนับสนุนงานวิจัยและเทคโนโลยีชีวภาพทางด้านชีววิทยาศาสตร์ออกสู่ตลาดธุรกิจหวังเดินหน้าขับเคลื่อน Start-up ตอบรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ประเทศไทย 4.0 เป็นนโยบายที่มุ่งปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หรือที่เรียกว่า "Value – Based Economy" มีการปรับเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าพร้อมบริโภคไปสู่สินค้าเชิง "นวัตกรรม" ซึ่งอีกนัยหนึ่งเป็นการเปลี่ยนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรม ไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม โดยการพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการ (Entrepreneur)จาก Tradition SMEs หรือ SMEs ดั้งเดิมไปสู่การเป็น Smart Enterprises และบริษัท Startupsโดยที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการสนับสนุนบริษัท Startup ซึ่งมี 3 ด้านหลัก คือ 1. ด้านกำลังคน : โครงการ Talent Mobility / โครงการ WIlการฝึกอบรม Adv.Tec 2. ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม : คูปองนวัตกรรม Start- up Venture ,iTAPการอนุญาตให้ใช้สิทธิ IP เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ การบริการตรวจสอบมาตรฐานเพื่อการรับรองคุณภาพ และ 3. ด้านภาษี : การยกเว้นภาษีเงินได้ และการยกเว้นภาษีเครื่องมือการยกเว้นภาษี 300% สำหรับการลงทุนวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชน เป็นต้น ทั้งนี้ แม้ว่าภาครัฐจะมีโครงการสนับสนุนให้เพิ่มบริษัท Start-up จำนวนมาก แต่นักวิจัยของประเทศที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ ตลอดจนแหล่งทุนต่างๆ ยังมีจำนวนจำกัด ดังนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย TCELS ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) ได้จัดตั้ง"โครงการส่งเสริมนวัตกรรมด้วยการลงทุน (Promoting Innovation with investment : Promoting I with I"ซึ่งมีประโยชน์สามารถก่อให้เกิดการตกลงทำสัญญาใช้สิทธิ (Licensing agreement) หรือการจัดตั้งบริษัท Start up ขึ้นจากผลงานวิจัยและ Innovation ของนักวิจัยไทยได้ในอนาคตอันใกล้ จึงได้ร่วมกับ 5 หน่วยงานจัดพิธีการลงนามบันทึกความเข้าใจภายใต้โครงการดังกล่าวฯ ระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดย TCELS ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน)สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพไทย (Thai Bio) สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน - ARDA) สำนักงานกองทุนสนับสนุนวิจัย (TRF) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (OHEC) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนงานวิจัยและเทคโนโลยีชีวภาพทางด้านชีววิทยาศาสตร์ รวมทั้งการพัฒนาบุคคลากรที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมด้านชีววิทยาศาสตร์ และส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา ต่อยอดไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์หรือบริการ ที่พร้อมออกสู่ตลาดธุรกิจ อีกทั้งเป็นการสร้างโอกาสพัฒนาโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคการศึกษา ภาคธุรกิจและประชาชนในการวิจัยนวัตกรรมด้านชีววิทยาศาสตร์ ตอบรับนโยบายไทยแลนด์4.0สู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม" ด้าน ดร.นเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELSกล่าวว่า เนื่องจากมีผลงานวิจัยก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ โดยนักวิจัยไทย ซึ่งบางส่วนสามารถก่อให้เกิดนวัตกรรม (innovation) และผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ตามมาในที่สุดนักวิจัยของประเทศไทยมีความสามารถในการวิจัยสูงมาก ในแต่ละปีก่อให้เกิดองค์ความรู้ในรูปแบบของการตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารนานาชาติเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดี องค์ความรู้จากผลงานวิจัยก็ยังไม่ได้ส่งผลให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์มากนัก ทั้งที่มีผลงานวิจัยที่มีศักยภาพที่ก่อให้เกิดทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property)สามารถนำไปสู่การอนุญาตให้ใช้สิทธิ (Technology Licensing) หรือการจัดตั้งบริษัทเริ่มใหม่ (Start-up Company) " ในขณะที่อีกด้านหนึ่งบริษัทเอกชนไทยจำนวนหนึ่งก็เริ่มเสาะแสวงหาเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือยกระดับความสามารถของผลิตภัณฑ์ หรือบริการเพื่อสร้างความมั่นได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด TCELS ซึ่งเป็นหน่วยงานสนับสนุนให้เกิดธุรกิจชีวภาพจากนวัตกรรม ได้เล็งเห็นความสำคัญของการจับคู่ระหว่างผลงานวิจัยกับภาคธุรกิจและนักลงทุน จึงได้ร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ชีวภาพไทย (Thai Bio) มีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นสมาชิกอยู่ 15 บริษัท สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จึงได้ร่วมกันผลักดันให้งานวิจัยด้านชีวิวิทยาศาสตร์ที่คัดสรรแล้วจำนวนหนึ่ง มานำเสนอเป็นต้นแบบเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน และพร้อมเข้าสู่การต่อยอดในเชิงพาณิชย์ โดยภาคเอกชนต่อไป" ดร.นเรศกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังจากการลงนามความร่วมมือดังกล่าวแล้ว โครงการฯ จะเริ่มจัดกิจกรรมให้นักวิจัยเจ้าของผลงานต้นแบบได้มีโอกาสพบกับนักลงทุน และกลุ่มธุรกิจภาคเอกชน จำนวน 4 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 จะจัดขึ้นในวันที่ 1 มีนาคมนี้ จะให้โอกาสนักวิจัยได้ฝึกฝน Pithing ล่วงหน้าผ่านการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้วย" ดร.นเรศ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ