สมิติเวชชูเทคนิคซาโน่สุดล้ำจากญี่ปุ่น วินิจฉัยแม่นยำ ตรงจุด ตัดเนื้อร้ายได้ทันที ร่วมรณรงค์ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ “Blue Ribbon! Beat Colon Cancer” ต่อเนื่องปีที่3

ข่าวทั่วไป Tuesday March 14, 2017 15:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--บมจ.สมิติเวช มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมะเร็งที่พบบ่อยและเป็นสาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิตในอับดับต้นๆของโลก โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว ในขณะที่ประเทศที่กำลังพัฒนาหลายประเทศก็เริ่มมีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มมากขึ้น สำหรับประเทศไทยเองพบผู้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน เนื่องจากขาดความรู้ วิธีการดูแลและป้องกัน ในเดือนมีนาคม วงการมะเร็งทั่วโลกกำหนดให้เป็นเดือนแห่งการรณรงค์ต้านภัย "มะเร็งลำไส้ใหญ่" โดยใช้โบว์สีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์เพื่อร่วมกันรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของโรคและห่างไกลจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ สมิติเวชขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการณรงค์ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ จัดแคมเปญ Blue Ribbon! Beating Colon Cancer เน้นการป้องกันมากกว่าการรักษาพร้อมให้ความรู้เรื่อง วิธีการดูสุขภาพและการป้องกัน โดยมุ่งหวังให้ทุกคนปลอดภัยจากมะเร็งร้ายเพราะมะเร็งลำไส้ใหญ่ ป้องกัน รักษา และเอาชนะได้ด้วยการส่องกล้อง สมิติเวชตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหาร ในปี 2014 ได้จับมือกับโรงพยาบาลซาโน่ เป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่นและเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ตะวันตก เรื่องความเชี่ยวชาญด้านการส่องกล้องระบบทางเดินอาหารและความแม่นยำในการแปลผลลักษณะผิวเยื่อบุและติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ เพื่อแลกเปลี่ยนความก้าวหน้าทางการแพทย์ นำนวัตกรรมและเทคนิคการรักษาที่ทันสมัย มาดูแลรักษาผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหาร มุ่งหวังยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วย นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สมิติเวช เปิดเผยว่า ด้วยนโยบายของสมิติเวชที่อยากให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง เน้นการป้องกันมากกว่าการรักษาและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม การตรวจคัดกรองเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ ทำให้ประเทศไม่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษา สามารถนำเงินในส่วนนี้ไปช่วยพัฒนาประเทศให้เกิดประโยชน์ในด้านอื่นๆได้อย่างมหาศาล ด้วยแนวความคิดนี้ สมิติเวชจึงจัดแคมเปญ Blue Ribbon! Beating Colon Cancer รณรงค์ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ มุ่งเน้นให้ทุกคนในกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะมะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถป้องกัน รักษา และเอาชนะได้ ด้วยการตรวจส่องกล้อง พร้อมเดินหน้าก้าวสู่การเป็น Medical Hub อย่างเต็มตัวด้วยการพัฒนาด้านการแพทย์และบริการให้มีคุณภาพทัดเที่ยมกับมาตราฐานสากล จับมือกับโรงพยาบาลซาโน่ประเทศญี่ปุ่น นำนวัตกรรมและเทคนิคทันสมัยทางการแพทย์ เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหาร โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนแพทย์ระบบทางเดินอาหารและตับไปศึกษาดูงานและเรียนรู้เทคนิคด้านการส่องกล้องขั้นสูงเพิ่มเติม ที่โรงพยาบาลซาโน่ เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำและการดูแลรักษาที่ตรงจุด นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของการต่อยอดการพัฒนาของวงการแพทย์ไทย สมิติเวชขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงการดูแลตัวเอง ให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ นพ. นิธิวัฒน์ กิจศรีอุไร ผู้อำนวยการ รพ. สมิติเวช สุขุมวิท กล่าวว่า จากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปเป็นแบบคนเมืองมากขึ้น คือการใช้ชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ นิยมบริโภคแต่เนื้อสัตว์ ทานผักน้อยลง ขาดการออกกำลังกาย เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมักพบมากในกลุ่มคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยส่วนใหญ่จะรู้ตัวและมาพบแพทย์ในระยะที่โรคลุกลามแล้ว จากสถานการณ์ปัจจุบันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในประเทศไทยมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเพื่อตอบรับสู่ความเป็น Thailand 4.0 ที่ส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค (Prevention and Promotion Excellence) สมิติเวชจึงจัดแคมเปญ Blue Ribbon! Beating Colon Cancer รณรงณ์ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ด้วยการให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ตั้งแต่การดูแล รักษาและป้องกันแก่ประชาชน พร้อมแนะนำให้ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปหรือกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการตรวจส่องกล้องมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นประจำทุก 10 ปีที่สำคัญหมั่นดูแลตัวเองให้สมบูรณ์ทั้งสุขภาพกายและใจอยู่เสมอ สำหรับการร่วมมือกับโรงพยาบาลซาโน่ ล่าสุดในปีนี้ สมิติเวชนำเทคนิคสุดล้ำ ESD( Endoscopic Submucosal Dissection) คือการส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร ที่สามารถตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่จากลำไส้ใหญ่หรือกระเพาะอาหารออกทั้งชิ้นผ่านกล้องได้ในทันที โดยไม่ต้องเปิดหน้าท้อง ไร้แผล ซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยวินิจฉัยและรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะเริ่มต้นได้อย่างแม่นยำ ตรงจุด ลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด ภาวะแทรกซ้อนและระยะเวลาการอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก Dr. Noriaki Hasuike อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินอาหาร จาก รพ.ซาโน่ มาสอนเทคนิค ESD ที่สามารถตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่จากกระเพาะอาหารผ่านกล้อง ให้กับทีมแพทย์สถาบันตับและทางเดินอาหาร เพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญ สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินอาหารได้เพิ่มมากขึ้น สร้างความอุ่นใจกับผู้ป่วยชาวญี่ปุ่น ชาวไทยและชาวต่างประเทศได้อย่างเต็มที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย นพ.อดินันท์ กิตติรัตนไพบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ กล่าวว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่ ถือเป็นภัยเงียบที่ไม่เลือกเพศ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แนวทางป้องกันที่ดีที่สุดคือ การเฝ้าระวังด้วยการส่องกล้องตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพื่อดูว่ามีติ่งเนื้อที่ผิดปกติหรือไม่ โดยมีข้อมูลว่าประมาณ 80-90 ของมะเร็งลำไส้ใหญ่อาจเกิดจากติ่งเนื้อขนาดเล็กที่ค่อยๆโตขึ้นจนกลายเป็นมะเร็งในที่สุด ดังนั้นถ้าพบว่ามีติ่งเนื้อก็ควรตัดทิ้งและนำติ่งเนื้อนั้นมาตรวจทางพยาธิวิทยาและหากเป็นมะเร็งก็จะพบได้ในระยะเริ่มต้น ซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งวิธีนี้เป็นสิ่งที่วงการแพทย์ทั่วโลกให้การยอมรับว่าสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี Dr.Noriaki Hasuike อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลซาโน่ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่าสมิติเวชเป็นโรงพยาบาลมีชื่อเสียงและเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนที่ชาวญี่ปุ่นให้ความเชื่อถือ มาใช้บริการเป็นจำนวนมาก จากความร่วมมือกันในครั้งนี้ เราจะนำเทคนิคการตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่จากกระเพาะอาหารผ่านกล้อง ESD เข้ามาช่วยเหลือผู้ป่วยซึ่งมีอาการหรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบกระเพาะอาหารได้เพิ่มมากขึ้น เราเชื่อว่าจะสามารถช่วยให้การบริการของสถาบันตับและทางเดินอาหารครบวงจรมากขึ้น สถาบันโรคตับและระบบทางเดินอาหารโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิทและศรีนครินทร์ ประกอบด้วยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ นวัตกรรมและเทคนิคที่ทันสมัย พร้อมการบริการที่ครบวงจรด้วยมาตราฐานระดับสากล ตั้งแต่การวินิจฉัยที่แม่นยำ การรักษาที่มีประสิทธิภาพ สามารถรักษาโรคที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อ โรคจากพิษสุรา ตัวแข็ง ภาวะไขมันคั่งสะสมในตับ ตับอ่อนอักเสบ นิ่ว มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ และอื่นๆ ให้บริการแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ป่วยชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุด โดยในแต่ละปีสมิติเวชให้บริการแก่ผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นมากถึง 120,000 คน หรือประมาณวันละ 400 คนโดยเฉลี่ย ทำให้สมิติเวชเป็นโรงพยาบาลเอกชนนอกประเทศญี่ปุ่นที่ให้บริการชาวญี่ปุ่นมากที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ