กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--เอเซียบุ๊คส
"หนูชอบเจ้าหญิง Belle ค๊า" เสียงน้องปูรณ์ (ด.ญ.แก้วเจ้าจอม วิเชียรรัตน์ อายุ 4 ขวบ จากโรงเรียนราชินีบน) ส่งเสียงใส "หนูชอบสีเหลือง หนูมีชุดเจ้าหญิง Belle ด้วยนะคะ หนูว่าเจ้าหญิง Belle ก็ชอบสีเหลืองเหมือนหนู เพราะเจ้าหญิง Belle ชอบใส่ชุดสีเหลืองค๊า" น้องปูรณ์กล่าวกับเราก่อนนั่งระบายสีต่อ
ภายในร้านหนังสือเอเซียบุ๊คส สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นจุดนัดพบของเด็กๆ และคุณพ่อ คุณแม่ ในช่วงปิดเทอมกับกิจกรรม "Things to do for Kids" กิจกรรมที่ทางเอเซียบุ๊คสจัดขึ้น โดยเสาร์ที่ผ่านมาได้กลุ่มต้นฝัน นักเล่านิทานมือดีจากรั้วมศว. มาร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้
เมื่อพี่ๆจากทีมต้นฝันเริ่มเตรียมตัว น้องๆที่ระบายสีอยู่ก็เริ่มทะยอยเข้ามานั่งจับจองที่นั่งเพื่อรอฟังพี่ๆทีมต้นฝันเล่านิทานสนุกๆให้ฟังกัน...
พี่ๆทีมต้นฝันเล่าสนุกมากจนน้องๆหลายคนนั่งนิ่งและใจจดจ่อไปกับเสียงภาคและตัวละครที่พี่ๆกำลังแสดงอยู่"สนุกมากเลยค๊า หนูไม่เคยมาดูพี่ๆแสดงมาก่อนเลย พอคุณแม่พามาดูพี่ๆเล่านิทานหนูยิ่งชอบ หนูจะบอกให้คุณแม่ไปเล่าแบบนี้ให้หนูฟังที่บ้านด้วยค๊า" น้องปูรณ์เล่าให้เราฟังเมื่อนิทานจากพี่ๆทีมต้นฝันแสดงจบ...
น้องปูรณ์กับพี่ๆทีมต้นฝัน น้องปูรณ์
หลังจากนั้นน้องปูรณ์วิ่งไปหาพี่ๆทีมต้นฝัน เราก็หันกลับมาที่คุณแม่น้องปูรณ์ (คุณจอมแก้ว วิเศษชลหาร) เกียวกับการดูแลน้องปูรณ์กัน "ส่วนใหญ่ก็จะพาน้องปูรณ์ไปปั่นจักรยานบ้าง พาไปดูนิทรรศการสำหรับเด็กบ้าง อย่างวันนี้พาน้องปูรณ์มาร้านหนังสือ แล้วพอรู้ว่ามีกิจกรรมเล่านิทานสำหรับน้องๆด้วย ก็เลยรู้สึกดีที่ร้านหนังสือยังมองเห็นถึงความสำคัญของเด็กๆและจัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีนะคะ เด็กๆก็สนใจกิจกรรมเหล่านี้ดี เพราะบางทีเวลาเราเล่านิทานให้เด็กฟังที่บ้าน เราอาจไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็เป็นแค่นิทานก่อนนอนธรรมดา แต่มาฟังนิทานที่เอเซียบุ๊คสที่มีทั้งเสียงดนตรี พี่ๆทั้ง 3 คน มาเล่านิทานเป็นตัวละครในนิทานแล้วมีเสียงขึ้นลงๆ เด็กๆก็จะสนุกมากขึ้นด้วย" คุณแม่จอมแก้วเล่าให้เราฟังต่อว่า "หนังสือนิทานสำหรับเด็กเขาก็จะผลิตมาไม่ให้ยาวหรือสั้นจนเกินไป เพราะเด็กๆจะสนใจได้ไม่นาน หลังจากนั้นเราอาจจะชวนเขาทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่ฟังนิทานบ้าง เช่นพาไประบายสีหรือปลูกดอกไม้ และความสนใจของเด็กแต่ละคนไม่
น้องปูรณ์กับคุณแม่จอมแก้วเหมือนกัน อย่างน้องปูรณ์จะชอบฟังนิทาน น้องปูรณ์ก็จะสนใจนั่งฟังมากกว่าเด็กคนอื่นๆ แต่เด็กบางคนก็จะชอบลงมือทำมากกว่านั่งทำ ซึ่งก็แล้วแต่สไตล์ของเด็กๆตาละคน ซึ่งเราในฐานะของการเป็นคุณพ่อหรือคุณแม่ก็ต้องสังเกตลูกของเราว่าน้องเขาชอบกิจกรรมอะไร แบบไหน เพื่อให้เขาได้มีพัฒนาการต่อไปค่ะ" คุณแม่จอมแก้วทิ้งท้ายกับเราไว้ว่า "ทุกวันนี้เราสามารถหาอะไรก็ได้ในอินเทอร์เน็ต แต่เรายังชอบความรู้สึกที่ต้องเปิดหนังสืออ่าน แล้วเด็กก็ยังชอบอยู่ ยังไงก็ตามคิดว่าการ์ตูนในยูทูป ยังไม่เท่ากับการที่พ่อแม่มีเวลาอ่านหนังสือหรือนิทานให้ลูกฟังแน่นอนคือชอบอยู่ขอบคุณเอเซียบุ๊คสนะคะที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ และยังมีหนังสือดีๆให้เราอ่านกัน"
มาทางด้านพี่ๆทีมต้นฝันขวัญใจคนใหม่ของน้องๆในวันนี้กัน ว่ามีเทคนิคอะไรกันบ้างที่ทำให้การเล่านิทานไม่น่าเบื่ออีกต่อไป..
"คือพวกเราเริ่มต้นรวมกลุ่มกันจากการเรียนที่เดียวกันมาก่อนค่ะ พอเรียนจบก็มาเริ่มจับงานนิตยสารสำหรับเด็กแล้วก็มีทำนิทานสัญจรด้วย แล้วพอดีทางผู้ใหญ่ใจดีของทางเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ เห็นความสามารถในตัวพวกเรา ก็ให้โอกาสเรามาทำนิตยสารต้นฝันสำหรับเด็กๆ ซึ่งเป็นงานที่เรารักและเป็นต้นกำเนิดของกลุ่มต้นฝันนี่แหละค่ะ" ทีมต้นฝันเล่าถึงเรื่องความฝันของกลุ่มว่า "ความจริงเราได้มีโอกาสได้ไปจัดกิจกรรมเล่านิทานให้น้องๆในหลายๆที่ ร่วมถึงมีโอกาสได้ไปจัดห้องสมุดให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน ซึ่งเราก็ใช้การเล่านิทานเป็นตัวเชื่อมน้องๆให้รู้สึกว่าห้องสมุดหรือว่าหนังสือ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และถึงแม้ตอนนี้เรายังเป็นทีมต้นฝัน เป็นทีมกลุ่มเล็กๆ แต่ความฝันของพวกเราคือให้การอ่านไปถึงเด็กๆทั่วประเทศ โดยอาศัยนิตยสารต้นฝันและกิจกรรมที่เราทำนี่แหละค่ะ ที่เป็นตัวช่วยให้การอ่านเป็นรากฐานกับเด็กๆ เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สวยงามต่อไป" ทีมต้นฝันเล่าต่อว่า "พวกเรายังเชื่อว่าการอ่านยังเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราเปลี่ยนทัศนคติได้ สิ่งที่เราไม่รู้เราสามารถค้นพบสิ่งที่เราต้องการได้จากการอ่าน ยิ่งถ้าเราอ่าน เราก็ยิ่งรู้ ทุกครั้งที่เราเปิดหนังสืออ่านหนึ่งหน้ากลุ่มต้นฝันเชื่อว่ามันจะได้ความรู้ใหม่กว้างๆมากขึ้น บางครั้งบางอย่างในสิ่งที่ดีหรือไม่ดีเราไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่เราอาจหาคำตอบได้จากการอ่านได้อย่างแน่นอน"
ทีมต้นฝัน
มาถามทีมต้นฝันกันต่อเรื่องความสำคัญของนิทาน "อย่างในวันนี้เราเลือกนิทานกับเสียงดนตรีมาเล่นให้น้องๆฟังกัน เมื่อเสียงดนตรีมารวมกับการเล่านิทานมันจะทำให้ทุกเรื่องแล้วมันก็กลายเป็นเรื่องสนุกสำหรับเด็กๆ ซึ่งเทคนิคการเล่านิทานนั้น นอกจากเราจะรวมนิทานกับเสียงดนตรีได้แล้ว นิทานก็สามารถมารวมกับการประดิษฐ์ นิทานกับการร้องเพลง นิทานกับการเล่น นิทานกับการทำกิจกรรม หนังสือหนึ่งเล่มสามารถเล่าได้เป็นร้อยวิธี และที่สำคัญนิทานเป็นการตอบคำถามให้เด็กๆได้ง่ายๆ เช่น ว่าทำไมเราต้องอาบน้ำ กินข้าว หรือว่าเราสามารถต่อจินตนาการให้กับเด็กๆได้ด้วย อย่างเรื่องที่นำมาเล่าพ่อมดซึ่งชอบทำสิ่งไม่ดีมาตลอด ตอนจบพ่อมดก็จะต้องได้รับสิ่วไม่ดีตอบแทน อันนี้เป็นการสอนเด็กอย่างง่ายๆโดยที่เด็กจะไม่รู้สึกว่าโดนสอนอยู่"
แง่คิดและมุมมองดีจากคุณแม่จอมแก้วและทีมต้นฝันนั้น อาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่ต้องหันกลับมาให้ความสำคัญและให้เวลากับน้องมากขึ้น และท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าเด็กๆ จะได้ซึมซับการเล่านิทานจากพี่ๆทีมต้นฝัน หรือจะเป็นการเล่านิทาน โดยผ่านการอ่านจากคุณพ่อ คุณแม่ ล้วนมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อตัวเด็กๆแถบทั้งสิ้น หรือการที่คุณพ่อคุณแม่หันกลับมาสนใจกับกิจกรรมที่ลูกๆทำ ก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นให้เด็กๆได้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพต่อไป...
ยังมีกิจกรรมต้อนรับปิดเทอมสำหรับน้องๆกับกิจกรรม "Things to do for kids" ณ ร้านหนังสือเอเซียบุ๊คส ชั้น 6 เซ็นทรัลเวิลด์ตลอดโปรโมชั่น Children 's Festival อาทิ
กิจกรรม Magic Workshop : เด็ก ๆ จะได้ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงมายากล และเรียนรู้เทคนิคการแสดงโดยกลุ่ม Curtain Up Drama & Magic
ในวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 13.30 – 15.30 น
โดยน้องๆสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี!! หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่าย Customer service (ส่วนงานสาขา) เบอร์ 02-251-8571