ปกป้องดวงตา ให้กลับมาสดใสได้อีกครั้ง

ข่าวทั่วไป Friday March 24, 2017 17:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--โรงพยาบาลหัวเฉียว อาการตามัวในผู้สูงอายุ ดูจะเป็นเรื่องปกติธรรมดา จนหลายๆคนไม่ได้ให้ความใส่ใจเท่าที่ควร เพราะคิดว่า "ท่านแก่แล้ว หูตาก็ฝ้าฟางเป็นธรรมดา" แต่นั่นคุณกำลังมองข้ามความสำคัญบางอย่างไป ซึ่งไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาการดังกล่าวข้างต้น เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่จะเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่า ต้อกระจกอาจจะเริ่มปิดบังความสว่างในการมองเห็นของญาติผู้ใหญ่แล้วก็ได้ โรคต้อกระจกเกิดจากการขุ่นมัวของเลนส์ตา ซึ่งโดยปกติจะทำหน้าที่รวมแสงให้ตกลงบนจอประสาทตา เมื่อเกิดต้อกระจกจะทำให้จอประสาทตารับแสงได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีสายตาพร่ามัวลงเหมือนมองผ่านกระจกฝ้า แต่จะไม่มีอาการอักเสบหรือเจ็บปวดใดๆ โดยที่หากยิ่งเลนส์ตาขุ่นมากขึ้น ก็จะทำให้การมองเห็นลดลงไปด้วย ในด้านการรักษาโรคต้อกระจก พญ.พวงเพชร นาคะพงศ์ จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคจอประสาทตา โรงพยาบาลหัวเฉียว ได้กล่าวว่า การรักษามีหลายวิธีด้วยกัน บางกรณีจักษุแพทย์อาจใช้ยาหยอดตาเพื่อชะลอความรุนแรงของต้อกระจก แต่สิ่งที่ควรทราบก็คือไม่มียาชนิดใดสามารถลดหรือหยุดต้อกระจกได้ นอกจากการผ่าตัดหรือสลายต้อกระจก จะเป็นวิธีรักษาที่ช่วยให้สายตาของผู้ป่วยมองเห็นได้ดังเดิม โดยหากปล่อยไว้นานอาจเกิดโรคแทรกซ้อนหรือกลายเป็นต้อหินได้ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะเห็นได้ว่าดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่จะต้องดูแล และควรให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าอวัยวะส่วนอื่นๆ ดังนั้นเมื่อมีอาการตามัว หรืออาการอื่นที่สงสัยว่าจะเป็นต้อกระจก ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยละเอียด ไม่ควรใช้ยาหยอดตาใดๆ ทั้งสิ้น หากไม่ได้คำปรึกษาจากจักษุแพทย์ เพราะอาจเกิดอันตรายถึงขั้นตาบอดได้ ปัจจุบันด้วยวิทยาการรักษาต้อกระจกที่ทันสมัย คลินิกตา โรงพยาบาลหัวเฉียว โดยทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้จัดแพ็คเกจผ่าตัดต้อกระจกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ซึ่งมีประสิทธิภาพดีมากกว่าการผ่าตัดแบบดั้งเดิม แผลมีขนาดเล็กสามารถสมานแผลผ่าตัดได้โดยไม่ต้องเย็บ และหลังจากผ่าตัดสามารถมองเห็นได้ชัดเจนทันที กลับบ้านได้ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 02-223-1351 ต่อ 3126

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ