กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--Market-Comms
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ทำให้ระบบการศึกษาต้องมีการปรับตัว ทั้งแนวทางการเรียนการสอน การเสริมทักษะที่จำเป็นนอกเหนือจากเนื้อหาด้านวิชาการ และรูปแบบเนื้อหาที่จะต้องสามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผสานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ กลายเป็นองค์ความรู้หลักที่จะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาบุคลากรให้ได้ตรงความต้องการของตลาดแรงงานมากยิ่งขึ้น แต่จะมีสาขาใดที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้นั้น เป็นสิ่งที่วงการการศึกษากำลังจับตามอง
การพัฒนาหลักสูตรด้านการบริหาร ผสานเข้ากับ หลักสูตรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ เป็นสิ่งท้าทายระบบการศึกษาภาครัฐและเอกชนในป้จจุบัน ทว่าเมื่อเป็นความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต ความพร้อมและความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนจึงเป็นข้อได้เปรียบของสถาบันการศึกษาภาคเอกชน โดยเฉพาะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ซึ่งเป็นสถาบันที่มีความพร้อมและโดดเด่นในด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี จึงพัฒนาหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรมและธุรกิจ (Innovation and Business Management) เพื่อผลิต นวัตกรบริหาร ขึ้นรองรับตลาดยุค 4.0
ผศ. ดร. ภานวีย์ โภไคยอุดม รองอธิการบดี ฝ่ายนโยบายและแผน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร หรือ MUT เปิดเผยว่า สาขาวิชานวัตกรรมและการบริหารจัดการ เป็นการรวมศาสตร์ด้านวิศวกรรม เทคโนโลยี นวัตกรรมและการบริหารธุรกิจเข้าด้วยกัน มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถค้นพบและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ บนพื้นฐานเทคโนโลยีและนวัตกรรม ต่อยอดสู่การเป็นเจ้าของกิจการ หรือเข้าไปสู่ระบบองค์ธุรกิจหรือภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเข้าใจกระบวนการและแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วยการนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมสมัยใหม่เข้าไปประยุกต์ใช้
อาจารย์ภิญญดา เกษตรภิบาล ผู้บริหารหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรมและธุรกิจ กล่าวเสริมว่า จุดเด่นของสาขาวิชานี้ ได้นำระบบการเรียนการสอนแบบ Active Learning เข้ามาประยุกต์ใช้ตลอดระยะเวลาทั้งหลักสูตร 4 ปี และส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ด้วยการฝึกปฏิบัติจริง ผ่านการทำโครงการ เริ่มตั้งแต่การออกแบบธุรกิจ การจัดตั้งธุรกิจ การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในธุรกิจ การเขียนแผนธุรกิจ และการพัฒนาโครงการสู่รูปธรรมที่เป็นจริง สิ่งเหล่านี้ จะทำให้นักเรียนสามารถเข้าใจในเนื้อหาวิชาเรียนได้อย่างแท้จริง รวมทั้ง สามารถนำโครงการที่ได้ออกแบบมานั้น ไปพัฒนาต่อเป็นธุรกิจของตนเองได้ต่อไปในอนาคต สำหรับเนื้อหาสาขาวิชา สามารถแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ ได้แก่ ความรู้ด้านการบริหาร ร้อยละ 46 ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีร้อยละ 33 ส่วนที่เหลือให้ความสำคัญกับด้านภาษา ร้อยละ 21 เปิดรับสมัครเพียงชั้นปีละ 30 คน โดยเสียค่าเล่าเรียนเฉลี่ยปีละ 56,000 บาท เท่านั้น
ทั้งหมดนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร มีความมุ่งมั่นต่อการพัฒนาระบบการศึกษาไทยเพื่อก้าวสู่ยุค 4.0 ได้อย่างยั่งยืน โดยใช้แนวคิดหลักขององค์กรที่ว่า ความรู้ คือ พลัง หากทุกคนมีความรู้ก็จะสามารถนำไปเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ ผลิตบัณฑิตให้มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านศาสตร์และทักษะ คิดเป็นและทำจริง เป็นนักวิทยาศาสตร์และวิศวกร ที่มีศักยภาพและประสิทธิภาพ แข่งขันได้ในระดับสากล
สำหรับผู้สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 02-9884021-4 เว็บไซต์ www.mut.ac.th