ปตท. จับมือภาคี ร่วมสานพลัง “ประชารัฐร่วมใจ...ปลอดภัยทุกเส้นทาง”

ข่าวยานยนต์ Wednesday April 5, 2017 15:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--ปตท. รวมพลังภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม กว่า 50 องค์กร ร่วมปลุกจิตสำนึกความปลอดภัยให้แก่พนักงาน ผู้ขับขี่และผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวนี้ วันนี้ (5 เมษายน 2560) พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางถนน "ประชารัฐร่วมใจ...ปลอดภัยทุกเส้นทาง" ณ ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคารซี ชั้น ๖ ถนนวิภาวดีรังสิต จตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยมี นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมกับผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมกว่า 50 องค์กร ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางถนน ในครั้งนี้ โครงการ "ประชารัฐร่วมใจ...ปลอดภัยทุกเส้นทาง" ภายใต้โครงการประชารัฐเพื่อสังคม เป็นความร่วมมือของคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคม ด้านความปลอดภัยทางถนน ซึ่ง ปตท. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ภาคเอกชน อาทิ บริษัทในกลุ่ม ปตท. บริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กลุ่มมิตรผล เป็นต้น และภาคประชาสังคม อาทิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธิ ร่วมกตัญญู และมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง เป็นต้น เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการ "สร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนน" โดยเน้นพัฒนาระบบการบริหารจัดการความปลอดภัยในการเดินทางของหน่วยงานและผู้รับจ้างขนส่ง สร้างความตระหนักและพัฒนาบุคลากรให้เกิดทักษะ แนวปฏิบัติด้านการขับขี่ปลอดภัย รวมทั้งส่งเสริมและถ่ายทอดให้กับสมาชิกครอบครัวเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันสู่สังคมรณรงค์และปลูกฝังจิตสำนึก เสริมสร้างพฤติกรรมด้านความปลอดภัยทางถนนให้กับบุคลากรภายในและต่อสังคม กำหนดมาตรการให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยเพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนร่วมผลักดันให้การบังคับใช้กฎหมายเพื่อความปลอดภัยทางถนนมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งสนับสนุนส่งเสริมให้องค์กรมียานพาหนะที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ต่อพ่วง และการบำรุงรักษาที่ดีเพื่อความปลอดภัย นายเทวินทร์ฯ เปิดเผยว่า "ด้วยสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนของประเทศไทยที่มีสถิติเป็นอับดับ 2 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน ทำให้ทุกภาคส่วนต้องเร่งสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนอย่างเร่งด่วนถึงความรุนแรงและความสูญเสียของอุบัติเหตุบนท้องถนน รวมถึงปลุกจิตสำนึกการขับขี่อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวที่จะถึงนี้ เริ่มต้นจากตนเอง ครอบครัว องค์กรและทุกภาคส่วน โดย ปตท. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความปลอดภัยให้กลับมาสู่ท้องถนนของเมืองไทย" ในส่วนของการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในการขับขี่ ปตท. มีนโยบายด้านความปลอดภัยในการขับขี่อย่างต่อเนื่องเสมอมา ตั้งแต่ระดับพนักงานขององค์กร มีการจัดอบรม Defensive Driving ให้แก่พนักงานทุกระดับเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะพนักงานขับรถขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของ กลุ่ม ปตท. และบริษัทคู่ค้าทั่วประเทศ โดยมีการจัดอบรม Defensive Driving แบบเข้มข้น ให้แก่พนักงานขับรถขนส่งผลิตภัณฑ์ทุกคน อีกทั้งยังจัดตั้งศูนย์ควบคุมการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (Transportation Control Center : TCC) เพื่อตรวจสอบและติดตามพฤติกรรมการขับรถของพนักงานขนส่งทุกเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวสงกรานต์ปีนี้ ปตท. ได้จัดแคมเปญรณรงค์ "3 ดี 20 ไม่ ปลอดภัยถึงบ้าน" ชี้ให้เห็นถึง 20 สาเหตุ ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุด รวมทั้งจัดทำ TVC ชุด "สิ้นหวัง" เผยแพร่ทางสื่อต่างๆ เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกความตระหนักรู้ของผู้ขับขี่และผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนให้เห็นถึงอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินทั้งต่อตนเองและผู้ร่วมทาง นอกจากนี้ ขอเชิญชวนผู้ใช้รถร่วมตรวจเช็คเครื่องยนต์ก่อนออกเดินทางช่วงสงกรานต์ ฟรี 25 รายการที่ปั๊ม ปตท. 59 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งให้บริการตรวจเช็คเครื่องยนต์ฟรี 24 รายการที่ PTT Fit Auto จำนวน 26 แห่ง และตรวจเช็คมาตรฐานความปลอดภัย 15 ขั้นตอนที่ศูนย์บริการ ProCheck จำนวน 57 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันนี้ -10 เมษายนศกนี้ "เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยว ปตท. พร้อมจัดหาพลังงานอย่างเพียงพอต่อความต้องการ ไม่ขาดแคลน เพื่อความสะดวกในการเดินทาง และหากง่วง หรือเหนื่อยล้าจากการขับขี่สามารถแวะพักรถและเติมพลังได้ที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ตลอดเส้นทางทั่วประเทศเพื่อร่วมกันสร้างความปลอดภัยและความสุขให้แก่ผู้ใช้รถ ใช้ถนน ชุมชนและสังคมของเราอย่างยั่งยืนตลอดไป" นายเทวินทร์ฯ กล่าวในตอนท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ