กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮฮล์ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอหาดใหญ่ เทศบาลนครหาดใหญ่ ลงพื้นที่ตรวจเตือนและให้ความรู้เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2560 ก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ป้องกันอุบัติเหตุจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะเดินทางในช่วง 7 วันอันตราย 11-17 เมษายน นี้
ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นช่วงที่มีอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้นสูงมากกว่าช่วงปกติ เนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน มีผู้ใช้รถสัญจรบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมาแล้วขับ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ สคร. 12 สงขลาจึงได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮฮล์ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอหาดใหญ่ เทศบาลนครหาดใหญ่ ลงพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว มีการเดินทางเข้าออกของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยได้ให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 แก่ผู้ประกอบการร้านค้า ตามสถานที่ต่างๆ ได้แก่ สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ ห้างสรรพสินค้า และบริเวณตลาด เป็นต้น
สำหรับการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ประชาชนควรทราบ โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้า ได้แก่ ห้ามขาย ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด สถานศึกษา สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สถานีรถไฟและในขบวนรถไฟ สถานีขนส่งผู้โดยสาร ท่าเรือและบนเรือโดยสารสาธารณะประจำทาง ห้ามดื่มขณะขับขี่หรือขณะโดยสารอยู่ในรถ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ห้ามมิให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ช่วงเวลาที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ คือ เวลา 11.00-14.00 น. และ17.00-24.00 น. หากมีการจำหน่ายนอกช่วงเวลา มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว สิ่งที่จะทำให้ทุกคนเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยคือ ง่วงไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ทั้งผู้ขับขี่และผู้นั่งเบาะหน้า เบาะหลัง สวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง ทั้งคนขับและคนซ้อนท้าย ตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เมื่อพบการตั้งด่านหรือจุดตรวจ หากประสบอุบัติเหตุสามารถโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1669