แมนพาวเวอร์กรุ๊ป สานต่อโครงการตอบแทนสังคม เปิด “ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานไทยให้มีงานทำ” หวังช่วยฟื้นฟูตลาดแรงงาน ลดภาวะคนตกงาน

ข่าวทั่วไป Tuesday April 18, 2017 10:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--เจพี วัน คอนซัลแทนท์ แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย จัดกิจกรรมตอบแทนสังคม จับมือพันธมิตรบริษัทชั้นนำในประเทศ พร้อมตำแหน่งงานคุณภาพหลายร้อยอัตรา เปิดตัว ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานไทยให้มีงานทำ หวังกระตุ้นตลาดแรงงาน ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ลดปัญหาการว่างงาน ลดภาวะคนตกงาน ด้วยนวัตกรรมแรงงานที่ครอบคลุม พร้อมความเข้าใจตลาดแรงงาน หวังให้เกิดการแก้ไขปัญหาแรงงานแบบยั่งยืน พร้อมสอดรับนโยบายภาครัฐในการแก้ไขปัญหาแรงงาน ร่วมกันในทุกภาคส่วน ในการขับเคลื่อนแรงงานไทยสู่ยุคของนวัตกรรมแรงงานอย่างแท้จริง มร.ไซมอน แมททิวส์, ผู้จัดการประจำประเทศไทย และแถบตะวันออกกลาง กล่าวว่า แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ได้เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมด้านแรงงานให้ตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และแรงงานทุกระดับในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเราเป็นทั้งที่ปรึกษา ผู้ให้บริการ และวางแผนให้กับภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร นอกจากเราจะเป็นผู้พัฒนาด้านนวัตกรรมแรงงานแล้ว เรายังใส่ใจถึงปัญหาแรงงานที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมของประเทศไทย ทั้งในเรื่องของ แรงงานขาดตลาด การผลิตแรงงานไม่ตรงกับความต้องการ ภาวะคนตกงาน โดยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ได้วางแผนในการดำเนินงานเพื่อสังคมทั้งในระยะสั้น และในระยะยาว ทั้งในด้านภาคการศึกษา ภาคแรงงาน และภาคเยาวชน เป็นต้น โดยให้ความสำคัญในการมุ่งทำงานกลับคืนสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ การพัฒนาด้านการทำงาน, การบรรเทาสาธารณภัย, การช่วยเหลือผู้อพยพ และการต่อต้านการทารุณกรรมมนุษย์ ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้จากโครงการฯ ที่แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย ตั้งใจช่วยเหลือ อาทิ โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม,โครงการแบ่งฝัน ปันอาชีพ สู่อนาคตบัณฑิตใหม่ เพื่อลดจำนวนนักศึกษาตกงาน ลดปัญหาการว่างงาน อีกทั้งยังเสริมความรู้สู่โลกของการทำงาน และยังคงเดินหน้าแผนการทำงานระยะยาวในอนาคตต่อไป นางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป กล่าวว่า ในปีนี้สัดส่วนของประชากรว่างงานจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 พบว่ามีกำลังแรงงานประมาณ 55.83 ล้านคน พร้อมทำงาน 38.38 ล้านคน ซึ่งเป็นผู้มีงานทำแล้ว 37.68 ล้านคน เป็นผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรม 10.69 ล้านคน หรือคิดเป็น 28.4 เปอร์เซ็นต์ ของผู้มีงานทำ และทำงานนอกภาคเกษตรกรรม 26.99 ล้านคน หรือคิดเป็น 71.6 เปอร์เซ็นต์ ของผู้มีงานทำ ขณะที่มีผู้ว่างงาน 4.30 แสนคน หรือคิดเป็น 1.1 เปอร์เซ็นต์ และคาดการณ์อัตราการการจ้างงานปีนี้ขยับแค่ 2.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจดูเป็นเรื่องน่าตกใจ เนื่องจาก สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัญหาแรงงานต่างด้าว สวัสดิการต่างๆ การศึกษากับตลาดแรงงานที่มีความผันผวน รวมถึงกลุ่มคนที่ขาดทักษะในอาชีพเฉพาะทางก็จะส่งผลให้ตกงานมากขึ้นเช่นกัน แต่ด้วยภาวะการว่างงานจะเป็นไปตามกลไกของระบบเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเมื่อตลาดความต้องการแรงงานในประเทศไทยเปลี่ยนไป ตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการของตลาดย่อมเปลี่ยนตามไปด้วย เพราะฉะนั้นทุกภาคส่วนควรร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา ทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่ต้องทำงานให้สอดคล้องกัน ผนวกกับนโยบายยุทธศาสตร์การพัฒนาชาติ ผลักดันให้เกิดการจัดการแรงงานที่มีคุณภาพ ดังนั้น ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานไทยให้มีงานทำ จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ แมนพาวเวอร์กรุ๊ปได้มองถึงปัญหาแรงงานที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะช่วยเหลือแรงงานไทย อีกทั้งโครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่งกลไกที่ช่วยเหลือประเทศไทย ในการร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ช่วยเหลือแรงงานให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นการตอบแทนสังคมอีกหนึ่งช่องทาง โดยโครงการในครั้งนี้ ได้ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำจากทั่วประเทศ อาทิ บริษัท เฮลธี เทค จำกัด,บริษัท เงินติดล้อ จำกัด, บริษัท มาร์ส เพ็ทแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น ที่มาพร้อมกับตำแหน่งงานหลายร้อยอัตรา ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งพนักงานประจำ ลูกจ้างชั่วคราว หรือพนักงานสัญญาจ้าง ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามโดยเข้าไปได้ที่ บริษัท แมนพาวเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ทั่วทุกสาขา ทั่วทุกภูมิภาค หรือโทรมาที่ Manpower Call Center 02-634-7291 สำหรับผู้สมัครงานดูตำแหน่งงานได้ทาง www.manpowerthailand.com หรือส่งประวัติเข้ามาที่ recruitmentthailand@manpower.th.com วันนี้ – 30 เมษายน 2560 ในฐานะแรงงาน ก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในอนาคตด้วยเช่นกัน อาทิ การปรับเปลี่ยนการทำงานแบบเชิงรุก มีการวางเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน หมั่นพัฒนาทักษะรอบด้านของตัวเองอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งต้องรู้จักสร้างโอกาสให้ตัวเอง ด้วยวิธีคิดดังนี้ คิดเยอะ คิดต่าง ลงมือทำ และที่สำคัญไม่แพ้กันคือ เราจะต้องรู้จักตัวเองก่อนว่า เราต้องการอะไร และถ้าเรารู้แล้ว เราจะมีจุดมุ่งหมายเล็กๆ และทำให้สำเร็จ มันจะทำให้เรารู้สึกว่า เราเข้าใกล้จุดมุ่งหมายใหญ่ปลายทางเข้าไปทุกวัน และไม่ว่ามันจะเล็กแค่ไหน ความก้าวหน้าเล็กๆ นั้นจะทำให้ในแต่ละวันของเรามีความสุข และก้าวสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในไม่ช้า นางสาวสุธิดา กล่าวสรุป
แท็ก นวัตกรรม  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ