สหกรณ์นิคมแม่สอด จำกัด ได้นำระบบการตรวจสอบย้อนกลับ QR-Trace

ข่าวทั่วไป Wednesday April 19, 2017 10:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากนโยบายของ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการยกระดับมาตรฐานสินค้าการเกษตรสู่ความยั่งยืน โดยวางเป้าสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและการเพิ่มความตระหนักความรู้เรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตรให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เดินหน้าพัฒนาศักยภาพและยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าทางการเกษตร โดยการบริหารจัดการร่วมกันในรูปแบบของสหกรณ์ ซึ่งจากการลงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตาก พบว่า สหกรณ์นิคมแม่สอด จำกัด จังหวัดตาก เป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ดีของขบวนการสหกรณ์แหล่งใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศ และได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรสมาชิกทำการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่ โดยมีสมาชิกเข้าร่วมจำนวน 400 ราย พื้นที่ 8,000 ไร่ สามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสม พันธุ์นครสวรรค์ 3จากเดิมต้นทุนกิโลกรัมละ 5.90 บาท เป็น 5.64 บาทและได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก 669 กก./ไร่ เป็น 900 กก./ไร่อีกทั้งยังมีการบริหารจัดการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรร่วมกัน เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิตอีกทาง โดยสหกรณ์นิคมแม่สอด จำกัด เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรสมาชิก เพื่อนำมาแปรรูปเป็นอาหารสัตว์และจำหน่ายผ่านเครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์ โรงงานอาหารสัตว์และตลาดเอกชนอื่นๆ โดยสหกรณ์นิคมแม่สอด จำกัด ได้นำระบบการตรวจสอบย้อนกลับ QR-Trace โดยใช้ QR Code ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมาตรฐานสากลที่ใช้ติดบนกระสอบบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนตรวจสอบข้อมูลการผลิต แหล่งผลิต คำแนะนำต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรว่าเมล็ดพันธุ์ที่ซื้อไปปลูกเป็นเมล็ดพันธุ์ดีมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน หากเมล็ดพันธุ์นั้นเกิดปัญหามีการปลอมปน ก็จะสามารถตรวจสอบย้อนกลับผ่านระบบนี้ และไปปรับปรุงแก้ไขในกระบวนการผลิตของเกษตรกรต้นทางได้ โดยเฉพาะกระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสม พันธุ์นครสวรรค์ 3 ซึ่งทางสหกรณ์ฯ ได้นำเมล็ดพันธุ์ดีของทางราชการไปต่อยอดขยายผลในเชิงพาณิชย์ โดยจดทะเบียนการค้า ภายใต้ชื่อการค้า "นว.3" มีสมาชิกสหกรณ์เข้าร่วมโครงการ จำนวน 160 ราย พื้นที่ประมาณ 1,800 ไร่ ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์นิคมแม่สอด จำกัด และสหกรณ์นิคมแม่ระมาด จำกัด ผลที่เกษตรกรสมาชิกผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ได้รับคือรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั่วไปประมาณ 5,000-6,000 บาทต่อไร่ รวมทั้งช่วยลดต้นทุนการผลิตเบื้องต้นให้กับเกษตรกรที่ซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดไปปลูก เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งพันธุ์ดีซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับรายได้ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกรสมาชิกนับเป็นการยกระดับการผลิตสินค้าทางการเกษตรของไทยอีกขั้นหนึ่ง เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน และก้าวสู่ระดับสากลในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ