ฟอร์ดเผยอาการกลัวความมืด ก่อความเครียดยามขับขี่

ข่าวยานยนต์ Wednesday April 19, 2017 15:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์ ฟอร์ดเผยผลสำรวจล่าสุดเผยว่าคนส่วนใหญ่กังวลเรื่องมองไม่เห็นในที่มืด ในขณะที่หลายคนกลัวชนคนเดินถนน ฟอร์ดเผยโฉมเทคโนโลยีใหม่ที่หยุดรถให้คนเดินถนนโดยอัตโนมัติในตอนกลางคืน ระบบจะตรวจจับถนนด้านหน้าและบนทางเดินเท้า เพื่อค้นหาผู้คนที่อาจเดินข้ามถนน อุบัติเหตุรถยนต์ในตอนกลางคืนที่เกี่ยวข้องกับคนเดินถนน อาจรุนแรงถึงชีวิตมากกว่าช่วงเวลาอื่น ฟอร์ด เผยผลสำรวจ*ว่า ความกังวลเรื่องมองไม่เห็นในที่มืดและความกลัวว่าจะขับรถชนคนหรือสิ่งของ นับเป็นสิ่งที่คนขับกลัวมากที่สุดเมื่อขับรถตอนกลางคืน แต่ตอนนี้ ฟอร์ดมีทางแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว โดยนับเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ดได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวของคนเดินถนนในตอนกลางคืน และจะหยุดรถโดยอัตโนมัติหากคนขับไม่ตอบสนองต่อสัญญาณเตือนเบื้องต้น "เราทราบดีว่า ผู้ขับขี่รู้สึกว่าการขับรถตอนกลางคืนนั้นเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความเครียด โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ หรือบริเวณพลุกพล่านที่คนเดินถนนอาจเดินข้ามถนนโดยไม่มีสัญญาณเตือน เนื่องจากมัวแต่สนใจโทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้คนขับมีเวลาเพียงเสี้ยววินาที ที่จะตอบสนองและหลบเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นแม้จะตื่นตัวตลอดเวลาก็ตาม" เกรเกอร์ อเล็กซี วิศวกรความปลอดภัยเชิงรุก ฟอร์ด ยุโรป กล่าว "ระบบตรวจจับคนเดินถนน (Pedestrian Detection) ได้รับการออกแบบมาให้ช่วยตรวจจับคนที่อยู่บนถนน หรือกำลังจะก้าวลงบนถนนด้านหน้ารถ ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน" จากผลสำรวจในผู้ขับขี่หลายพันคนทั่วยุโรป 81% ยอมรับว่ารู้สึกกลัวเมื่อขับรถตอนกลางคืน โดยในจำนวนนี้ 87% เป็นผู้หญิง มากกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า ทัศนวิสัยที่ไม่ดีในตอนกลางคืนเป็นต้นเหตุของความเครียด และมากกว่า 3 ใน 4 กังวลว่า พวกเขาอาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ โดยทุก 1 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสอบถามกังวลว่าอาจจะชนคนเดินถนน นี่ถือเป็นประเด็นระดับโลก ในปี 2557 มากกว่า 1 ใน 5 ของผู้เสียชีวิตบนท้องถนนทั่วยุโรป คือ คนเดินถนน โดยเกือบครึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตอนกลางคืน** สำนักงานรักษาความปลอดภัยบนถนนของสหรัฐอเมริกาเผยว่า ในปี 2558 3 ใน 4 ของการเสียชีวิตของคนเดินถนนที่เกิดจากยานยนต์ในสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นในช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดิน เทคโนโลยีตรวจจับคนเดินถนนที่ได้รับการพัฒนาแล้วนี้ สามารถทำงานในเวลากลางคืนได้เป็นครั้งแรก ทีมพัฒนาได้ทำงานในเวลากลางคืน โดยส่งหุ่นคนขนาดจริงเข้าไปในเส้นทางของรถทดสอบในถนนปิด ก่อนจะทดสอบระบบบนถนนสาธารณะในเมืองใหญ่ เช่น ปารีส และอัมสเตอร์ดัม วิธีการทำงานของระบบ ระบบตรวจจับคนเดินถนนจะประมวลข้อมูลจากเรดาร์ที่ติดตั้งอยู่บนกันชน และจากกล้องที่อยู่เหนือกระจก ด้านหน้าในขณะที่ฐานข้อมูล "รูปร่างของคนเดินถนน" จะช่วยให้ระบบสามารถแยกคนเดินถนนออกจากสิ่งของต่างๆ เช่น ต้นไม้ และป้ายสัญลักษณ์ กล้องจะส่งรูปถ่าย 30 รูปต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่าโปรเจ็คเตอร์ฉายภาพยนตร์ ภาพวิดีโอแบบเรียลไทม์และมุมกล้องเลนส์กว้าง ช่วยให้ระบบสามารถตรวจจับคนเดินถนนได้แม้ในสภาพแสงน้อยที่มีแต่แสงจากไฟหน้าเท่านั้น เมื่อระบบตรวจจับได้ถึงความเป็นไปได้ที่จะชนคนข้ามถนน ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและภาพ เพื่อเตือนคนขับ หากคนขับไม่ตอบสนอง ระบบจะหยุดรถโดยอัตโนมัติ โดยรถยนต์รุ่นแรกในเอเชีย แปซิฟิค ที่จะมาพร้อมเทคโนโลยีตรวจจับคนเดินถนนที่ล้ำสมัยนี้คือ ฟอร์ด มัสแตง ปี 2018 เคล็ดลับขับขี่ยามกลางคืน วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้การขับรถตอนกลางคืนง่ายดายยิ่งขึ้น: ดูแลหน้าต่างและกระจกให้สะอาด ปราศจากน้ำแข็งและฝ้า ทำความสะอาดไฟภายนอก และตรวจสภาพให้พร้อมใช้งาน เก็บหลอดไฟสำรองติดรถไว้ยามฉุกเฉิน หากต้องขับบนถนนที่ไม่มีไฟส่องทาง เปิดไฟสูง และลดไฟลงเมื่อมีรถสวน งดขับหากรู้สึกเหนื่อย หรือเมื่อขับติดต่อกันเกิน 2 ชั่วโมง โดยไม่หยุดพัก ตรวจวัดสภาพสายตาอยู่เสมอ เลือกใช้รถที่มีระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control) ระบบนี้ใช้กล้องที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าตรวจสอบสภาวะต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อบริเวณนั้นมืดมากพอและไม่มีแสงไฟจากรถคันอื่นๆ โดยรอบ ระบบจะทำงานเปิดไฟสูงเองอัตโนมัติ และเมื่อตรวจจับว่ามีแสงไฟมากพอหรือมีไฟสวนจากรถตรงข้าม ระบบก็จะปิดไฟสูงโดยอัตโนมัติ *ผลสำรวจจัดทำโดย Opinion Matters จากการสอบถามผู้ขับขี่ 5,030 คน ในเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และสหราชอาณาจักร **ข้อมูลจากรายงาน Traffic Safety Basic Facts 2016 โดย European Road Safety Observatory

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ