เปิดฉากเดือนแรกของไตรมาสที่ 3 ตลาดรถยนต์นั่งยังมาแรง รับหน้าฝน ด้วยอัตราการเติบโต 32.6 %

ข่าวยานยนต์ Tuesday August 14, 2001 15:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการบริหารบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานยอดจำหน่ายรถยนต์เดือนกรกฎาคม เดือนแรกของไตรมาสที่ 3 ด้วยยอดจำหน่ายรวม 22,967 คัน เติบโต 13.4 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว โดยการเติบโตเกิดขึ้นในทุกตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถยนต์นั่ง ซึ่งอัตราการเติบโตสูงสุดด้วยยอดจำหน่าย 8,715 คัน เติบโต 32.6 % รถบรรทุกขนาด 1 ตัน 12,253 คัน เติบโต 4.3 % และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 14,252 คัน เติบโต 4.2 %
ส่วนยอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง เดือนกรกฎาคม มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยตัวเลขยอดขายรวมทั้งสิ้น 162,985 คัน และอัตราการเจริญเติบโต 14.3 % แบ่งเป็นตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์นั่ง 55,429 คัน เพิ่มขึ้น 18.4 % รถกระบะขนาด 1 ตัน 93,750 คัน เพิ่มขึ้น 15.3 % และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 107,556 คัน เพิ่มขึ้น 12.3 % เมื่อเทียบกับยอดขายของช่วงเดียวกันในปีที่แล้วประเด็นสำคัญ
1. ถึงแม้ว่าในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเดือนแรกของไตรมาสที่ 3 ซึ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเป็นช่วงที่ตลาดค่อนข้างซบเซา แต่อย่างไรก็ตามพบว่ามีปัจจัยหลายตัวที่กระตุ้นให้ยอดขายรถยนต์ในเดือนกรกฎาคมนี้เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ดังนี้คือ
1.1 สำหรับตลาดรถยนต์นั่ง มีผลมาจากการเปิดตัวรถยนต์จากค่ายต่างๆ เช่น นิสสันอัลมิร่า ฮอนด้า ไทพ์ซีร์ ไมเนอร์เชนจ์ รวมถึงโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ที่ยังคงได้รับความสนใจจากผู้บริโภค ทำให้ยังคงมียอดจองอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดรถยนต์นั่งยังคงเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด
1.2 สำหรับตลาดรถกระบะ 1 ตันแม้จะยังไม่มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ ออกมาก็ตามในช่วงนี้ แต่ค่ายรถทุกค่ายต่างกระตุ้นตลาดด้วยการขยายระยะเวลาแคมเปญส่งเสริมการขายต่อเนื่องจากเดือนมิถุนายน รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นของการเเข่งขันด้วยการเพิ่มเเคมเปญให้มากขึ้น ซึ่งเเคมเปญที่ยังคงได้รับความสนใจจากผู้บริโภคได้แก่ แคมเปญแจกทอง ดอกเบี้ยเช่าซื้อต่ำ การจับรางวัลชิงโชค รวมถึงแคมเปญอื่นๆ ทำให้ตลาดรถกระบะ 1 ตัน ยังคมมียอดจำหน่ายเติบโตขึ้น
2. แม้ว่ายอดขายในเดือนกรกฎาคมนี้จะเติบโตสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่หากพิจารณาจากอัตราการเจริญเติบโต พบว่ามีอัตราที่ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการเติบโตในเดือนมิถุนายน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถกระบะ 1 ตัน ซึ่งมีอัตราการเติบโต 4.3 % ในขณะที่เดือนมิถุนายน มีอัตราการเติบโต 10.1 % ทั่งนี้น่าจะเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมถึงเป็นเดือนเริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าฝน
3. สำหรับสภาวะการณ์ตลาดต่อจากช่วงนี้ คาดว่าค่ายรถต่างๆ จะยังคงกระตุ้นตลาดด้วยแคมเปญส่งเสริมการขายที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มแคมเปญด้านการบริการหลังการจำหน่าย เช่น การตรวจสภาพรับหน้าฝน เป็นต้น ซึ่งเมื่อผนวกกับความชัดเจนทางการเมือง หลังจากการพิจารณาคดีปกปิดทรัพย์สินของนายกรัฐมนตรี ประกอบกับโครงการต่างๆ ของรัฐบาลบเริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้น น่าจะมีผลให้การตัดสินใจซื้อของลูกค้าเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้ยอดขายมีอัตราการเติบโตต่อไป
1) สรุปยอดการจำหน่ายรถยนต์ของเดือนกรกฎาคม 2544
1.1 ตัวเลขจำหน่ายตลาดรถยนต์รวม จำนวน 22,967 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว โดยมีอัตราการเจริญเติบโต 13.4 %
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,314 คัน เพิ่มขึ้น 15.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 27.5 %
อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,772 คัน เพิ่มขึ้น 17.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 25.1 %
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 3,180 คัน เพิ่มขึ้น 29.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.8 %
1.2 ตลาดรถยนต์นั่ง จำนวน 8,715 คัน เพิ่มขึ้น 32.6 %
อันดับที่ 1 โตโยต้า 3,398 คัน เพิ่มขึ้น 61.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 39.0 %
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 2,815 คัน เพิ่มขึ้น 32.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 32.3 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 904 คัน เพิ่มขึ้น 10.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 10.4 %
1.3 ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน จำนวน 12,253 คัน เพิ่มขึ้น 4.3 %
อันดับที่ 1 อีซูซุ 5,420 คัน เพิ่มขึ้น 21.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 44.2 %
อันดับที่ 2 โตโยต้า 2,506 คัน ลดลง 14.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 20.5 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,270 คัน เพิ่มขึ้น 74.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 10.4 %
1.4 ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ จำนวน 14,252 คัน เพิ่มขึ้น 4.2 %
อันดับที่ 1 อีซูซุ 5,771 คัน เพิ่มขึ้น 17.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 40.5 %
อันดับที่ 2 โตโยต้า 2,916 คัน ลดลง 12.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 20.5 %
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,544 คัน ลดลง 22.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 10.8 %
2) สรุปยอดการจำหน่ายรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม
2.1 ตัวเลขจำหน่ายตลาดรถยนต์รวม จำนวน 162,985 คัน เพิ่มขึ้น 14.3 %
อันดับที่ 1 โตโยต้า 42,900 คัน เพิ่มขึ้น 10.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 26.3 %
อันดับที่ 2 อีซูซุ 39,868 คัน เพิ่มขึ้น 26.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.5 %
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 20,991 คัน เพิ่มขึ้น 28.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.9 %
2.2 ตลาดรถยนต์นั่ง จำนวน 55,429 คัน เพิ่มขึ้น 18.4 %
อันดับที่ 1 ฮอนด้า 18,619 คัน เพิ่มขึ้น 34.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 33.6 %
อันดับที่ 2 โตโยต้า 18,589 คัน เพิ่มขึ้น 8.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 33.5 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 6,558 คัน เพิ่มขึ้น 3.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.8 %
2.3 ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน จำนวน 93,750 คัน เพิ่มขึ้น 15.3 %
อันดับที่ 1 อีซูซุ 37,517 คัน เพิ่มขึ้น 28.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 40.0 %
อันดับที่ 2 โตโยต้า 21,377 คัน เพิ่มขึ้น 1.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 22.8 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 12,271 คัน เพิ่มขึ้น 82.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.1 %
2.4 ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ จำนวน 107,556 คัน เพิ่มขึ้น 12.3 %
อันดับที่ 1 อีซูซุ 39,828 คัน เพิ่มขึ้น 26.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 37.0 %
อันดับที่ 2 โตโยต้า 24,311 คัน เพิ่มขึ้น 1.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 22.6 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 14,352 คัน เพิ่มขึ้น 58.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.3 %--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ