กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะข้อควรปฏิบัติในการขับรถตามหลังหรือเข้าใกล้รถขนาดใหญ่ โดยหลีกเลี่ยงการขับรถตีคู่ ขับนำหน้า หรือขับตามหลังรถขนาดใหญ่ในระยะกระชั้นชิด เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า 5 - 6 เมตร ไม่ขับรถแซงหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน โดยเฉพาะบริเวณจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทางโค้ง ทางขึ้น – ลงสะพาน หรือทางลาดชันให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า การขับรถบนท้องถนนที่มีปริมาณรถหนาแน่น ความแตกต่างของขนาดรถเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะรถขนาดเล็กมีข้อจำกัดทางกายภาพ ซึ่งอาจถูกบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางหรือเข้าไปอยู่ในมุมอับของรถขนาดใหญ่ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ขอแนะข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถตามหลังหรือเข้าใกล้รถขนาดใหญ่ ดังนี้ ไม่ขับรถเข้าใกล้หรือขับชิดด้านท้ายของรถขนาดใหญ่ โดยเว้นระยะห่างให้มากกว่าปกติ หรือระยะ 5 - 6 เมตร เพื่อให้มีมุมในการมองเห็นเส้นทางได้ไกลและกว้างขึ้น รวมถึงป้องกันการเข้าไปอยู่พื้นที่จุดบอดของรถขนาดใหญ่หรือเศษวัสดุจากรถบรรทุกหล่นใส่ เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเข้าใกล้รถขนาดใหญ่ โดยเฉพาะช่วงรถออกตัว เลี้ยวโค้งขึ้น – ลงสะพาน หรือทางลาดชัน เพราะเสี่ยงต่อการถูกขนาดใหญ่เบียดหรือวัสดุหล่นใส่ หลีกเลี่ยงการขับรถตีคู่ นำหน้าหรือตามหลังรถขนาดใหญ่ในระยะกระชั้นชิด พยายามขับให้ห่างจากรถขนาดใหญ่ โดยเร่งความเร็วเพื่อแซง ชะลอความเร็วให้รถขนาดใหญ่แซงไปก่อน หรือขับให้อยู่ในตำแหน่งที่ผู้ขับรถขนาดใหญ่สามารถมองเห็นรถเราผ่านกระจกข้าง ไม่ขับแซงรถขนาดใหญ่ในระยะกระชั้นชิด เพราะรถขนาดใหญ่ต้องใช้ระยะทางในการหยุดมากกว่ารถทั่วไป อีกทั้งหากรถขนาดใหญ่หยุดกะทันหัน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ กรณีแซงหรือเปลี่ยนช่องทางควรอยู่ให้ห่างจากรถขนาดใหญ่ในระยะไม่ต่ำกว่า 30 เมตร เพื่อให้ผู้ขับรถขนาดใหญ่มองเห็น อีกทั้งควรขับแซงด้านขวา โดยรอให้ผู้ขับรถขนาดใหญ่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายและขับรถชิดซ้าย จึงสามารถขับแซงได้ เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถริมไหล่ทางในช่วงเวลากลางคืนเป็นพิเศษ ไม่ขับแซงด้านซ้ายริมไหล่ทาง เพราะอาจมีรถขนาดใหญ่จอดอยู่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้ การเรียนรู้หลักปฏิบัติในการขับรถอย่างถูกวิธี จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง