กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--
วันที่ ๒๖ มิถุนายนของทุกปีนั้นคือวันสุนทรภู่ กวีเอกของไทยและของโลก การฉลองวันสุนทรภู่ปี ๒๕๖๐ วัดเทพธิดารามวรวิหาร จัดพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์สุนทรภู่ ที่ตั้งอยู่ภายในวัดให้สาธุชน ทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
พิพิธภัณฑ์สุนทรภู่แห่งนี้ คณะกรรมการวัดฯร่วมกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดฟื้นฟูบูรณะกุฏิที่ท่านสุนทรภู่ได้บวชและพำนักอยู่ในวัดระยะหนึ่ง เป็นการจัดพิพิธภัณฑ์แบบร่วมสมัย ที่ผู้เข้าชมและศึกษาจะได้รับความทรงจำในวิถีชีวิตความเป็นอยู่และมีความรู้ในผลงานที่ท่านรังสรรค์บทกวีหลายเรื่อง กับความตื่นตาตื่นใจในระรบการนำเสนอด้วยภาพแสงสีเสียงด้วยเทคนิคสมัยใหม่
ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิวราภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพธิดารามฯชี้แจงว่า พิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๖ มิถุนายน ตั้งแต่ ๐๙.๐๐ น.เป็นต้นไปจัดอย่างเรียบง่าย ทั้งพิธีบุญกุศล ได้แก่ พิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุและสามเณร เวลา ๑๑.๐๐ น. ตอนบ่าย ๑๖.๐๐ น.พิธีทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาพิพิธ-ภัณฑ์สุนทรภู่ ส่วนพิธีฝ่ายคฤหัสถ์ ได้แก่ สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทยจัดแข่งขันแต่งกลอน แต่งสักวา แต่งดอกสร้อย ที่ห้องประชุมชั้นล่างโรงเรียนธรรมวิลาสที่อยู่ภายในวัด จัดตลาดนัดย้อนยุคภายในลานวัด ลานแสดงดนตรีไทยและขับเสภา เป็นต้น เพื่อให้งานครึกครื้น คณะกรรมการจัดงานขอความร่วมมือท่านผู้สนใจไปชมงานแต่งกายแบบไทย และหากท่านใดแต่งกายสวยงามย้อนสมัยสุนทรภู่ คณะกรรมการจัดรางวัลมอบให้ผู้ชนะ เป็นการร่วมสนุกด้วย
วัดเทพธิดารามวรวิหาร นับเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งในกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระราชทานแก่ พระเจ้าบรม-วงศ์เธอ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ พระราชธิดาองค์ใหญ่ เมื่อพ.ศ.๒๓๗๙ พุทธศิลป์ภายในวัดจึงเป็นศิลปะ-สถาปัตยกรรมตามพระราชนิยมในสมัยพระองค์ด้วย ภายในกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถ มีพระปรางค์ประจำทิศทั้งสี่ พระประธานที่ประดิษฐานบนบุษบกที่งดงามประณีตในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปที่พระบาท-สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชอัญเชิญมาพร้อมกับพระแก้วมรกต ซึ่งประชาชนกล่าวนามตามพระพุทธลักษณะท่านว่า "หลวงพ่อขาว" ต่อมารัชกาลที่ ๙ ทรงถวายพระนามว่า "พระพุทธเทววิลาส"
พระพุทธสถานที่สำคัญน่ารู้น่าชม นอกจาก"บ้านกวี"พิพิธภัณฑ์สุนทรภู่แล้ว ภายในพระวิหารประดิษฐานรูปปั้นหมู่ภิกษุณี ซึ่งล้วนเป็นภิกษุณีที่ได้บวชในสมัยพุทธกาล มีพระรูปหล่อของภิกษุณีนามพระมหาปชาบดีโคตมีเถรี ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าด้วย อีกแห่งที่ไม่พลาดชมคือ หอไตร ตรงมุมกำแพงสร้างผสมผสานระหว่างศิลปะไทยจีน หลังเล็ก ๆ แต่ฝีมือสร้างชั้นยอดที่ได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์ดีเด่นจากองค์การยูเนสโลกประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วย
วัดเทพธิดารามวรวิหารและพิพิธภัณฑ์สุนทรภู่ เปิดให้สาธุชน ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าทำบุญและเข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น. เฉพาะชาวต่างประเทศผู้ใหญ่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชมคนละ ๕๐ บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ พระวิสุทธิวราภรณ์ โทร. ๐๘๕ ๑๒๐ ๘๙๑๔ และ พระมหาเป็นเกียรติโทร.๐๘๐ ๖๒๒ ๖๙๓๕