ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดฉะเชิงเทราคลี่คลายแล้ว ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม

ข่าวทั่วไป Wednesday June 28, 2017 11:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่หมู่ที่ 11 ตำบลท่าตะเกียบ อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบ 5 ครัวเรือน ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ทั้งนี้ ได้ประสานให้จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตรียมพร้อมรับมือ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มจากภาวะฝนตกหนัก และปริมาณฝนสะสมในระยะนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 เวลา 17.00 น. เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่หมู่ที่ 11 ตำบลท่าตะเกียบ อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบ 5 ครัวเรือน ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่องและฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสสม ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตรียมพร้อมรับมือ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มจากภาวะฝนตกหนัก และปริมาณฝนสะสมในระยะนี้ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่ เสี่ยงภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะ ฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ