คปภ. แจงผู้เสียชีวิตตกบ่อบำบัดน้ำเสียได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย แนะนำให้ญาติตรวจสอบว่ามีประกันภัยอื่นด้วยหรือไม่ พร้อมช่วยเร่งรัดดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ข่าวทั่วไป Thursday June 29, 2017 11:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุผู้พลัดตกบ่อบำบัดน้ำเสียของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านบางนา กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 5 ราย โดยเป็นนิสิตคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1 ราย และเป็นพนักงานบริษัทอีก 4 ราย นั้น สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกราย สำหรับความคืบหน้าจากการตรวจสอบข้อมูลด้านการทำประกันภัย พบว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัท อลิอันซ์ อยุธยาประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดยเป็นการประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มให้กับผู้ที่มาเยี่ยม ชมงาน จำนวนเงินเอาประกันภัย 1,000,000 บาทต่อคน ในส่วนของพนักงานได้มีการทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มแบบระบุตำแหน่งงาน (ไม่ระบุชื่อ) จำนวนเงินเอาประกันภัยขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ไม่เกิน 3,000,000 บาทต่อคน อย่างไรก็ตาม บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ได้ตกลงจ่ายเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย รายละ 3,000,000 บาท แล้ว เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยในวงเงินดังกล่าว ได้รวมค่าสินไหมทดแทนในส่วนของการประกันภัยไว้ด้วยแล้ว ดังนั้น ขอให้ญาติหรือทายาทของผู้เสียชีวิตตรวจสอบว่ามีการทำประกันภัยประเภทอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ หรือสามารถสอบถามได้ที่สำนักงาน คปภ. สายด่วน ประกันภัย 1186 หากมีการทำประกันภัยเพิ่มเติมขอให้แสดงเอกสารและหลักฐานการทำประกันภัยต่อบริษัทประกันภัย เพื่อจะได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันภัยอย่างครบถ้วน สำนักงาน คปภ. พร้อมที่จะช่วยเร่งรัดและช่วยประสานงานความช่วยเหลือในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยและคุ้มครองประชาชนให้ได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วนจากการทำประกันภัย ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานเชิงรุกตามแผนพัฒนาการประกันภัยฉบับที่ 3 ในการเพิ่มบทบาทให้ระบบประกันภัยเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางรากฐานความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งให้ทุกภาคส่วนสามารถนำเอาระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงได้อย่างเป็นระบบ "อยากให้เจ้าของผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็ก กลาง และขนาดใหญ่ รวมถึงประชาชนทั่วไปเห็นความสำคัญของระบบประกันภัย ที่เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง รวมถึงสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนทุกระดับ อาทิ การประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก การประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน การประกันอัคคีภัย การประกันชีวิต หรือการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล เป็นต้น ซึ่งการประกันภัยเหล่านี้จะสามารถบรรเทาความเดือนร้อนทางการเงินให้กับเจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการ หรือประชาชนได้ หากเกิดภัยที่ไม่คาดคิดขึ้น" เลขาธิการ คปภ. กล่าวทิ้งท้าย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th หรือ ฝ่ายสื่อสารองค์กร โทรศัพท์ 02-515-3998-9 ต่อ 8307 โทรสาร 02-513-1437 http://www.facebook.com/PROIC2012

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ