กรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินหน้าขับเคลื่อน '1 สหกรณ์ 1 อำเภอ’ ตั้งเป้าพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรเป็นองค์กรหลักระดับอำเภอ

ข่าวทั่วไป Tuesday July 4, 2017 13:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย '1 สหกรณ์ 1 อำเภอ' มุ่งพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรเป็นองค์กรหลักระดับอำเภอ เตรียมพร้อมเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและศูนย์เรียนรู้ด้านการสหกรณ์ มีสหกรณ์การเกษตรใน 822 อำเภอที่ผ่านการคัดเลือก ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการพัฒนาศักยภาพสหกรณ์ในด้านต่างๆ เพื่อให้พร้อมสำหรับการทำหน้าที่รองรับนโยบายจากภาครัฐเพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เดินหน้านโยบาย '1 สหกรณ์ 1 อำเภอ' โดยจัดทำโครงการพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรให้เป็นองค์กรหลักระดับอำเภอ คัดเลือกสหกรณ์ภาคการเกษตรที่ตั้งอยู่ในทุกอำเภอทั่วประเทศ 878 แห่ง ที่มีความพร้อมสำหรับการทำหน้าที่เป็นองค์กรหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของอำเภอนั้นๆ เข้าสู่กระบวนการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีสหกรณ์ภาคการเกษตรที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว 822 แห่ง แบ่งเป็นสหกรณ์ระดับชั้น 1 จำนวน 401 แห่ง สหกรณ์ระดับชั้น 2 จำนวน 352 แห่ง สหกรณ์ระดับชั้น 3 จำนวน 61 แห่ง และอื่นๆ จำนวน 8 แห่ง ส่วนอีก 56 อำเภอ ไม่สามารถคัดเลือกสหกรณ์ภาคการเกษตร เนื่องจากเป็นพื้นที่สังคมเมืองและไม่ได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ซึ่งทางกรมฯ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดจะศึกษาสภาวะเศรษฐกิจและสังคมในอำเภอนั้นๆ ว่ามีความจำเป็นต้องจัดตั้งสหกรณ์ภาคการเกษตรขึ้นมารองรับ การเป็นองค์กรหลักสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากหรือไม่ เพื่อให้การดำเนินนโยบาย 1 สหกรณ์ 1 อำเภอ ดำเนินการครอบคลุมทุกอำเภอทั่วประเทศภายในปี 2562 ส่วนขั้นตอนการดำเนินโครงการพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรให้เป็นองค์กรหลักระดับอำเภอนั้น มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรระดับอำเภอ ให้มีความเข้มแข็งและมีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้บริการสมาชิกและคนในชุมชน ในปี 2560 จะเริ่มดำเนินการในสหกรณ์ 363 แห่ง ซึ่งเป็นสหกรณ์ในระดับชั้นที่ 1 กลุ่มที่ 1 (สหกรณ์การเกษตรทั่วไป) ที่มีการบริหารจัดการธุรกิจที่เข้มแข็งและมีพื้นที่ดำเนินงานครอบคลุมทั้งอำเภอ โดยเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์จากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดจะร่วมกับคณะกรรมการสหกรณ์และฝ่ายจัดการของสหกรณ์ วิเคราะห์สภาพแวดล้อมโดยรวมของแต่ละสหกรณ์ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการพัฒนาศักยภาพสหกรณ์ใน 6 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาแดนดำเนินงานครอบคลุมทั่วทั้งอำเภอ, การพัฒนาศักยภาพสหกรณ์ให้พร้อมสำหรับการบริการและมีการดำเนินธุรกิจครอบคลุมความต้องการของสมาชิกและเกษตรกรส่วนใหญ่ของอำเภอ, การผลักดันให้สหกรณ์เป็นแม่ข่ายกับ สหกรณ์อื่นๆ ในอำเภอเพื่อเชื่อมโยงนโยบายภาครัฐ ทั้งนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้านการลดต้นทุนและยกระดับคุณภาพผลผลิตทางการเกษตร การเป็นศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ระดับอำเภอและการดำเนินงานตามแผนพัฒนาความเข้มแข็งของสหกรณ์ นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์มีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจสหกรณ์เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 90% ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด, การพัฒนาปริมาณธุรกิจสหกรณ์เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5% จากปีที่ผ่านมาและสนับสนุนให้สหกรณ์จัดทำแผนเปิดรับสมาชิกสมาชิกเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ตั้งเป้าหมายว่า เมื่อสหกรณ์ผ่านการพัฒนาทั้ง 6 ด้านนี้แล้วจะเป็นสหกรณ์ที่มีความพร้อมสำหรับการทำหน้าที่เป็นตัวแทนส่งผ่านนโยบายรัฐบาลไปช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้ รวมถึงยังทำหน้าที่เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการสหกรณ์ในระดับอำเภอเพื่อเปิดให้สหกรณ์ต่าง ๆ หรือผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาดูงานด้านสหกรณ์ ซึ่งใน ปี 2560 กำหนดเป้าหมายพัฒนาไม่น้อยกว่า 300 สหกรณ์ ปี 2561 พัฒนาสหกรณ์อีกจำนวน 300 สหกรณ์และในปี 2562 พัฒนาอีก 278 สหกรณ์ เพื่อให้การดำเนินโครงการนี้ครบทุกอำเภอทั่วประเทศ สำหรับการพัฒนาสหกรณ์ระดับอำเภอทั้ง 6 ด้าน สำนักงานสหกรณ์จังหวัดจะร่วมกับคณะกรรมการของสหกรณ์วิเคราะห์และจัดทำแผนพัฒนาศักยภาพสหกรณ์ตามสถานภาพของแต่ละสหกรณ์ ทั้งการส่งเสริมธรรมาภิบาลของสหกรณ์ การส่งเสริมกลุ่มอาชีพให้กับสมาชิกสหกรณ์และการจัดโครงการเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิก พร้อมทั้งจะจัดอบรมคณะกรรมการสหกรณ์กว่า 10,000 รายภายในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้คณะกรรมการสหกรณ์มีองค์ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ และเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่จะพัฒนาสหกรณ์ของตนเองร่วมกัน และจะสร้างเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ให้เป็น Smart Officer เพื่อให้มีองค์ความรู้สำหรับเข้าไปให้คำแนะนำ หรือช่วยพัฒนาสหกรณ์ต่างๆ ให้สามารถดำเนินการได้ตามแผนพัฒนาสหกรณ์ที่วางไว้ทั้ง 6 ด้าน "กรมฯคาดหวังว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ทุกอำเภอทั่วประเทศจะมีสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพ มีความเข้มแข็ง พร้อมสำหรับการทำหน้าที่เป็นองค์กรหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน สามารถขับเคลื่อนนโยบายจากภาครัฐสู่ประชาชนในทุกอำเภอทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการนำนโยบายและทรัพยากรต่างๆ ส่งถึงตัวเกษตรกรและชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง" อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ