ปภ.เตือนอันตรายจากการปรับแต่งสัญญาณไฟไม่ถูกวิธี...เพิ่มความเสี่ยงอุบัติเหตุ

ข่าวทั่วไป Friday July 14, 2017 15:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือนอันตรายจากการปรับแต่งสัญญาณไฟ พร้อมแนะการปรับแต่งสัญญาณไฟอย่างถูกวิธี ดังนี้ ไฟซีนอน แสงไฟซีนอนจะส่องสว่างมากกว่า สัญญาณไฟปกติ ควรติดตั้งไฟซีนอนตามมาตรฐานที่กำหนด ไฟตัดหมอก เป็นไฟที่มีลำแสงพุ่งไกล และกระจายเป็นวงกว้าง ควรติดตั้งไฟที่ได้มาตรฐาน และเปิดใช้เฉพาะกรณีทัศนวิสัยไม่ดี หรือมองเห็นเส้นทางได้ไม่ชัดเจน การรมดำไฟหน้า และไฟท้าย ทำให้ประสิทธิภาพในการส่องสว่างของแสงไฟลดลง การเปลี่ยนสีสัญญาณไฟ ทำให้ผู้ขับรถคันอื่นมองไม่เห็นสัญญาณไฟ การเปลี่ยนไฟท้ายแบบ LED ทำให้แสงสว่างไม่เพียงพอต่อการมองเห็น เพื่อความปลอดภัย ไม่ควรติดตั้งแสงไฟนอกเหนือจากสีที่กฎหมายกำหนด จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า การปรับแต่งสัญญาณไฟหน้า และไฟท้าย แม้จะทำให้รถมีความสวยงาม และเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นให้ผู้ขับขี่ แต่หากปรับแต่งอย่างไม่ถูกวิธี หรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะการปรับแต่งสัญญาณไฟอย่างถูกวิธี ดังนี้ ไฟซีนอน แสงไฟซีนอนจะส่องสว่างมากกว่าสัญญาณไฟปกติ โดยลำแสงจะพุ่งไปข้างหน้าในระยะไกล หากติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน แสงไฟจะสะท้อนเข้าตาผู้ร่วมใช้เส้นทาง ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น ควรติดตั้งไฟซีนอนตามมาตรฐานที่กำหนด โดยจำกัดแนวและทิศทางของแสงไม่ให้ส่องขึ้นสูงหรือกระจายออกด้านข้าง โดยแสงต้องส่องในระดับเดียวกันทั้งสองข้าง ดวงไฟมีแสงสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน รวมถึงเลือกใช้ โคมครอบสัญญาณไฟที่ช่วยกรองแสงไม่ให้ส่องสว่างมากเกินไป ไฟตัดหมอก เป็นไฟที่มีลำแสงพุ่งไกล และกระจายเป็นวงกว้าง นอกจากจะช่วยให้มองเห็นเส้นทางอย่างชัดเจนแล้ว ยังเพิ่มจุดสังเกตให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางเห็นรถเราได้จากระยะไกล แต่หากเปิดใช้ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม แสงไฟจะรบกวนสายตาผู้ขับรถคันอื่น ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น ควรติดตั้งไฟตัดหมอกที่ได้มาตรฐาน โดยต้องเป็นแสงสีขาวหรือสีเหลือง มีกำลังไฟไม่เกิน 55 วัตต์ ติดตั้งอยู่ในระดับเดียวกัน และลำแสงพุ่งตรงไปข้างหน้า รวมถึงเปิดใช้เฉพาะกรณีทัศนวิสัยไม่ดี หรือมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน อาทิ ฝนตกหนัก หมอกลงจัด หรือเส้นทางที่มีกลุ่มควัน หรือฝุ่นละอองปกคลุม โดยต้องไม่มีรถอยู่ด้านหน้าหรือสวนทางมาในระยะทาง 150 เมตร การรมดำไฟหน้าและไฟท้าย ทำให้ประสิทธิภาพในการส่องสว่างของแสงไฟลดลง โดยเฉพาะช่วงที่ทัศนวิสัยไม่ดี ส่งผลให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางมองไม่เห็นรถเราจากระยะไกล อีกทั้งในเวลากลางวัน จะมองไม่เห็นสัญญาณไฟเบรก ส่วนในเวลากลางคืน จะมองไม่เห็นไฟท้าย จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การเปลี่ยนสีสัญญาณไฟ นอกจากจะทำให้มองไม่เห็นสัญญาณไฟแล้ว แสงไฟอาจสะท้อนเข้าตาผู้ขับรถคันอื่น ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การเปลี่ยนไฟท้ายแบบLEDแสงไฟส่องสว่างไม่เพียงพอต่อการมองเห็น ทำให้ผู้ขับรถตามหลังมามองเห็นสัญญาณไฟเบรก หรือไฟเลี้ยวไม่ชัดเจน จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น ไม่ควรติดตั้งแสงไฟนอกเหนือจากสีที่กฎหมายกำหนด โดยไฟหน้าต้องเป็นแสงสีขาว หรือสีเหลืองอ่อน แสงไฟไม่ส่องสว่างมากเกินไป และมองเห็นเส้นทางได้ชัดเจนในระยะไม่ต่ำกว่า 100 เมตร ขณะที่ไฟเบรกต้องเป็นสีแดง ส่วนไฟเลี้ยวต้องเป็นไฟกะพริบสีเหลืองอำพัน หรือสีแดง ทั้งนี้ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน และการติดตั้งอย่างถูกวิธี รวมถึงการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ