FSMART โชว์งบครึ่งปีแรกกำไรเพิ่ม 50% รายได้กว่า 1,609 ล. ย้ำรายเดียวในไทยที่ไม่ขายขาด แต่แบ่งรายได้ร่วมกับผู้ลงทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 16, 2017 17:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--ธามดี พลัส บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส โชว์งบ 6 เดือน มีรายได้รวม 1,609 ล้านบาท เพิ่ม 48% กำไร 275 ล้านบาท เพิ่ม 50% จากงวดเดียวกันปีก่อน จากยอดเติมเงินรวมกว่า 8,778 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2 มีรายได้ 832 ล้านบาท กำไรสุทธิ 144 ล้านบาท ชี้ขยายตู้ต่อเดือนเกินแผน แถมยอดโอนเงินทะลุเป้าผลักดันการเติบโต เผยเตรียมโรดโชว์กองทุนที่ต่างประเทศ แสดงศักยภาพบริษัทที่มีการเติบโตต่อเนื่อง "สมชัย สูงสว่าง" เล็งเพิ่มแบงก์เพื่อโอนเงินไตรมาส 4 แต่ยังคงเป้ายอดเติมปีนี้ที่ 32,000 ล้านบาท ด้วยจำนวนตู้ 122,000 ตู้ทั่วประเทศ พร้อมย้ำ "บุญเติม" เป็นผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ ผ่านเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติ ที่แบ่งผลประโยชน์ร่วมกับผู้ลงทุนเจ้าเดียวในประเทศไทย นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) "FSMART" ผู้นำช่องทางการชำระเงินผ่าน "ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม" ที่มีเครือข่ายมากที่สุดอันดับ 1 ของประเทศ เปิดเผยผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2560 ว่า บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 1,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 519 ล้านบาท หรือ 48% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 275 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50%หรือ 92 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีรายได้ 1,090 ล้านบาท และกำไร 183 ล้านบาท โดยการเติบโตของรายได้และกำไรมาจากการขยายตู้เติมเงินที่ปัจจุบันมีจำนวน 110,563 ตู้ทั่วประเทศ มากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 79,608 ตู้ คิดเป็นอัตราการเพิ่มตู้เฉลี่ย 3,000 ตู้ต่อเดือนมากกว่าแผนที่วางไว้ที่ 2,000 ตู้ต่อเดือน เช่นเดียวกับบริการอื่นๆมีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะบริการโอนเงินที่ล่าสุดมีการใช้บริการไม่น้อยกว่า 16,400 รายการต่อวัน และรายได้จากช่องทางอื่นๆที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ การเพิ่มบริการหน้าตู้ให้ครอบคลุมทั้งเครื่องชั่งน้ำหนัก การชำระบิล รวมถึงการจำหน่ายสินค้าผ่านตู้บุญเติมหน้าตู้บุญเติมยังเป็นส่วนผลักดันให้มีการใช้งานหน้าตู้เพิ่มขึ้นส่งผลต่อผลประกอบการที่มีการเพิ่มขึ้นดังกล่าว สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 บริษัทมีรายได้จำนวน 832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 267 ล้านบาท กำไรสุทธิ 144 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 47% และ 51% ตามลำดับ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 565 ล้านบาท และกำไร 95 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักยังมาจากการเติมเงินมือถือประมาณ 84% การโอนเงินผ่านธนาคาร 10% การจ่ายบิลต่างๆ 2% การชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 1% ที่เหลือจากบริการอื่นๆ เช่น การจ่ายบิล เติมเกมส์ ชั่งน้ำหนัก เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทมีสินค้าที่ดำเนินการภายใต้เครื่องหมายการค้า "บุญเติม" 4 สินค้า ได้แก่ 1.ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติมที่ปัจจุบันมีจำนวน110,563 ตู้ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นตู้บุญเติมที่มีเครื่องชั่งน้ำหนักอยู่ประมาณ 36,000 จุดทั่วประเทศ คิดเป็น 30% ของตู้ทั้งหมด 2.ตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติ และเติมเงินมือถือ (บุญเติม เวนดิ้ง แมชชีน แอนด์ ท้อปอัพ)มีจำนวน 1,000 จุดทั่วประเทศ 3.บุญเติม เคาน์เตอร์เซอร์วิส 600 จุดทั่วประเทศ และสุดท้ายตู้น้ำ RO ที่มีจำนวน 500 ตู้ทั่วประเทศ "การดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ทุกฝ่ายต่างร่วมแรงร่วมใจทำงาน จนสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งเรื่องของการขยายจำนวนตู้ได้เกินเป้าหมาย สะท้อนจากรายได้และกำไรที่เติบโตขึ้น ทำให้บริษัทเป็นที่น่าจับตามองของคู่ค้า และนักลงทุน โดยเป็นหนึ่งในหุ้นไทยที่ถูกคัดเลือกเข้าดัชนี MSCI Global Small Cap จาก 5 บริษัท คือ BCPG, BIG, FSMART, PTL และ THANI ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2560 เป็นต้นมา นอกจากนี้ เรายังได้รับรางวัลบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2560 ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในงาน MONEY & BANKING AWARDS 2017 ที่จัดโดยนิตยสารการเงินธนาคารอีกด้วย ต่างๆเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและการเติบโตของบริษัทที่แข็งแกร่งตามนโยบายของบริษัท"นายสมชัย กล่าว ขณะที่ในเดือนสิงหาคม และกันยายนนี้ บริษัทมีแผนที่จะเดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้กับกองทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา 22 กองทุน และเดินทางร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในการนำเสนอข้อมูลแก่กองทุนในประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้ ยังเตรียมเข้าร่วมงาน Thailand Focus 2017 ที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้อีกด้วย นายสมชัย กล่าวว่า การดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2560 บริษัทยังเดินตามแผนการขยายตู้เติมเงินบุญเติมใหม่เฉลี่ยเดือนละ 2,000 ตู้ โดยมีเป้าหมายตู้เติมเงินบุญเติมอยู่ที่ 122,000 ตู้ทั่วประเทศในปีนี้เช่นเดิม ซึ่งจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับยอดเติมเงินที่มีเป้าหมายที่ 32,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทพยายามให้บริการใหม่ๆหน้าตู้เพื่อเข้าถึงลูกค้า และเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น อาทิ การซื้อสติ๊กเกอร์ไลน์บนหน้าตู้บุญเติม ที่จะเริ่มดำเนินการได้ในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ ช่วงไตรมาส 4/60 บริษัทจะเปิดให้บริการโอนเงินผ่านธนาคารเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เพิ่มจำนวนธนาคารในการโอนเงินที่มีอยู่ 2 ธนาคารเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้ผู้บริโภค และเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการหน้าตู้บุญเติมเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม "ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม" ยังถือเป็นผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ ผ่านเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติ ที่แบ่งผลประโยชน์ร่วมกับผู้ลงทุนเจ้าเดียวในประเทศไทย แตกต่างกับผู้ประกอบการรายอื่นๆที่มีการขายขาดตู้เติมเงิน โดยการดำเนินงานบริษัทจะคำนึงถึงประโยชน์ที่ดีต่อตัวแทนและบริษัท โดยจะขยายจำนวนตู้ในทำเลที่มีคุณภาพ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 20% จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 130,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ ปัจจุบันมียอดผู้ใช้บริการหน้าตู้บุญเติมประมาณ 15.1 ล้านคนต่อเดือน และมียอดทำรายการหน้าตู้บุญเติมที่ประมาณ 2.22 ล้านรายการต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีผู้ใช้ 14.8 ล้านคนต่อเดือน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ