CHO แย้มครึ่งปีหลังสดใส ตุนงานในมือกว่า 2,676 ลบ. เร่งติดตั้งระบบสแกนบัตรโดยสารบนรถเมล์ ขสมก. 800 คัน ภายใน 1 ต.ค.นี้ ก่อนขยับแตะ 2,600 คัน ภายในกลางปี”61-ทยอยรับรู้รายได้ปีละ 330ลบ./5 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 29, 2017 16:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--IR network "สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย" บิ๊กบอส บมจ.ช ทวี หรือ CHO แย้มแนวโน้มผลงานครึ่งหลังของปี" 60 โตต่อเนื่อง หลังตุนงานในมือกว่า 2,676 ล้านบาท พร้อมใส่เกียร์หน้าเดินหน้าระบบสแกนบัตรโดยสารบนรถเมล์ ขสมก. ครบ 800 คัน ภายในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ ก่อนขยับเพิ่มเป็น 2,600 คัน ภายในเดือนมิ.ย.61 ตามแผน ทยอยรับรู้รายได้ภายใน 5 ปี (2561-2565) ปีละ 330 ล้านบาท หนุนผลงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) (CHO) ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิตตัวถังและติดตั้งระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวกับยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมทั้งเป็นผู้ผสานเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบราง และโลจิสติกส์เข้ากับการจัดการอย่างมืออาชีพ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 คาดว่าจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีปริมาณงานในมือ (Backlog) อยู่ประมาณ 2,676 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2560 เป็นต้นไป ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ส่วนความคืบหน้าโครงการให้เช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) จำนวน 2,600 คัน ระยะสัมปทานรวม 5 ปี กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้เป็นรายได้เฉลี่ยต่อปีตั้งแต่ปี 2561 – 2565 ประมาณ 330 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ ในระยะแรกจะดำเนินการติดตั้งระบบดังกล่าวบนรถประจำทางขสมก. ทั้งรถร้อนและรถปรับอากาศ เพื่อรองรับการใช้บัตรผู้มีรายได้น้อยที่รัฐบาลจะเริ่มต้นโครงการในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ "ตาม TOR ของโครงการให้เช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) จำนวน 2,600 คัน บริษัทฯ ต้องดำเนินการติดตั้งระบบที่ใช้สแกนบัตรโดยสารและกล่องเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติและส่งมอบงานล็อตแรกจำนวน 100 คัน ภายใน 15 ตุลาคม 2560 และส่งมอบงานล็อตที่สองจำนวน 700 คัน ภายใน 15 ธันวาคม 2560 และล็อตที่ 3 จำนวน 1,800 คัน ภายใน 10 มิถุนายน 2561 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้เริ่มทยอยติดตั้งระบบที่ใช้สแกนบัตรโดยสารก่อน ให้ครบ 800 คัน ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2560 เพื่อรองรับการใช้บัตรผู้มีรายได้น้อย สนองต่อนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มสวัสดิการในเรื่องของการลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน" นายสุรเดช กล่าว สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ไปพร้อมกับการขยายศูนย์บริการซ่อมรถบรรทุก "สิบล้อ 24 ชั่วโมง" ให้ครบ 8 แห่ง ภายใน 3 ปี (พ.ศ. 2561-2563) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัท รวมไปถึงการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น "ศูนย์สิบล้อ 24 ชั่วโมง" แห่งแรกที่จังหวัดชลบุรี ได้เปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบแล้วโดยให้บริการซ่อมบำรุงรถบรรทุกทั้ง เครื่องยนต์ ตัวถัง หางพ่วง ระบบช่วงล่าง ระบบไฟฟ้า และจำหน่ายอะไหล่ต่างๆ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ในปีนี้ประมาณ 20 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายเติบโตในปี 2561 ประมาณ 60 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็นประมาณ 70 – 100 ล้านบาทภายในปี 2562" นายสุรเดช กล่าวในที่สุด ขณะที่ ผลประกอบการในไตรมาส 2/2560 ที่ผ่านมาของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 354.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116.22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 48.68% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 17.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.94 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4,685.25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมียอดขายเพิ่มขึ้นในส่วนของงานผลิตและรายได้จากงานบริการที่มีสัดส่วนกำไรสูงกว่างานผลิต ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ