GTB รับงานผลิตบอยเลอร์ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เร่งขยายกำลังการผลิต เตรียมรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 25, 2017 14:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--เจตาแบค บมจ.เจตาแบค เผยเซ็นสัญญารับงานผลิตบอยเลอร์ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง มั่นใจช่วยเสริมรายได้ให้บริษัทได้อย่างดี โดยครึ่งปีหลังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) มากกว่า 1,000 ล้านบาท รวมทั้งรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวลมูลค่าหลายร้อยล้านบาทที่ใกล้แล้วเสร็จปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า ซึ่งงานที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้บริษัทขยายกำลังการผลิตโดยมีการสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ และขยายพื้นที่โรงงานระยองเพิ่ม มั่นใจยอดขายปีนี้มีเปอร์เซ็นต์การเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ ทั้งนี้จากการเปิดเผยของ นายสุชาติ มงคลอารีย์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจตาแบค จำกัด(มหาชน)"GTB" ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำ(Steam Boiler) ระบบเผาไหม้ (Combustion System) งานวิศวกรรมพลังงานความร้อน (Thermal Energy Engineering) อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และงานบริการด้านเครื่องกำเนิดไอน้ำ เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทฯยังได้ทำการเซ็นสัญญาผลิตและติดตั้งเครื่องกำเนิดไอน้ำให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ๆแทบทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวลและSPP, กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, กลุ่มเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี, กลุ่มยางและยานยนต์, กลุ่มกระดาษและสิ่งทอ, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง, กลุ่มโรงไม้และโรงเหล็ก, กลุ่มโรงแรมและโรงพยาบาล เป็นต้น ดันให้บริษัทมีรายได้รวมกว่าพันล้านบาท และจะสามารถรับรู้รายได้ดังกล่าวในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า ขณะที่แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงหาโอกาสในการรับงานอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มอุตสาหกรรมที่บริษัทมองว่ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา โดยล่าสุดมีความคืบหน้าของการผลิตและติดตั้งเครื่องกำเนิดไอน้ำเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่ดำเนินการไปแล้วกว่า 60% ซึ่งงานดังกล่าวเป็นการผลิตและติดตั้งบอยเลอร์ประเภท Biomass Steam Boiler (Para Wood Chip) ของบริษัท บางสวรรค์กรีน จำกัด จ.สุราษฏร์ธานี กำหนดระยะเวลา 12 เดือนหลังจากลงนามในสัญญา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและทดสอบ(Test run) ประมาณกลางเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่อีก 2 โครงการเป็นของบริษัท ออสการ์ เซฟ เดอะเวิลด์ จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี เป็นการผลิตและติดตั้งเครื่องกำเนิดไอน้ำประเภท VSPP 6 MWe., 9.9 MWe. และ 9.9 MWe. โครงการ 1 และ โครงการ 2 ระยะเวลาการผลิต และติดตั้ง 14 เดือนหลังจากลงนามในสัญญา โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้งพร้อมทดสอบการทำงานของเครื่องได้ประมาณเดือนเมษายนปีหน้า ทำให้บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการนี้ภายในปี 2560 ต่อเนื่องไปถึงปี 2561 ล่าสุด บริษัทฯได้สั่งซื้อและติดตั้งเครื่องจักรรุ่นใหม่ ระบบ CNC ( Computer Numerical Control ) พร้อมขยายพื้นที่ production ของโรงงานระยองเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยให้การทำงานในช่วงครึ่งปีหลังมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จากงานที่เริ่มทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมูลค่างานในมือ (Backlog)ที่รอรับรู้รายได้มากกว่า1,000 ล้านบาท รวมทั้งงานโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใกล้จะแล้วเสร็จตามที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้บริษัทเชื่อว่าในปีนี้จะสามารถมีเปอร์เซ็นต์การเติบโตของยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ