เอี่ยว-เบลล์ ฝันสดใส สู่ “เจ้าของธุรกิจค้าปลีก” รุ่นใหม่ หลังคว้าชัยรายการ “โชห่วย โชว์ซ่า ท้ารวย” โดยแม็คโคร

ข่าวทั่วไป Tuesday October 10, 2017 16:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--AMEX TEAM หนุ่มสาวรุ่นใหม่มีไม่น้อยทีเดียว ที่ฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และธุรกิจค้าปลีกนี่เองที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจในความฝัน ที่เรียกกันอีกอย่างว่าโชห่วยนี่แหละ แต่อย่าคิดนะว่าโชห่วย จะทำกันได้ง่ายๆ เพราะเป็นธุรกิจที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์รอบตัวเลยทีเดียว แบบว่าอินเนอร์ต้องมาเต็มนั่นแหละค่ะ คู้ณ... ถึงจะไปโลด ไปรอด เพราะอยากจุดประกายให้คนรุ่นใหม่มีไฟ มองเห็นคุณค่าของธุรกิจค้าปลีกแบบชัดๆ จัดเต็ม แล้วก็ช่วยกันสานต่อให้คงอยู่ แม็คโครจึงจัดรายการ "โชห่วย โชว์ซ่า ท้ารวย" ทางช่องทรูโฟร์ยู 24 เฟ้นหาคนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ และมีความฝันอยากเป็นเจ้าของร้านค้าปลีกแบบทันสมัย เข้ามาร่วมแข่งขันกันทำ 10 ภารกิจผ่านสถานการณ์จำลอง โดยผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย มาเรียนรู้และโชว์ความสามารถทำธุรกิจคนแรกเป็นหนุ่มฟรีแลนซ์สุดหล่อชื่อ เอี่ยว พาคินทร์ กนกกุลชัย ที่มาจับคู่กับโค้ชซุปตาร์สุดซ่าส์ บอย พิษณุ นิ่มสกุล ผู้ผ่านประสบการณ์การทำธุรกิจส่วนตัวมาอย่างโชกโชน สองหนุ่มจับมือกันมาในชื่อทีม ร้านพาฟินนน ส่วนอีกทีม เป็นสาวสวยผู้มากความคิดสร้างสรรค์ เบลล์ ปารณีย์ นามปักษา อดีตครีเอทีฟรายการโทรทัศน์ ผู้ที่อยากจะมีธุรกิจร้านค้าปลีกเป็นของตัวเอง ตามสไตล์คนรุ่นใหม่ มาจับคู่กับ โค้ชซุปตาร์สุดซี้ด เฟิร์น พัสกร พลบูรณ์ พิธีกรและนักแสดงสาวอารมณ์ดี แต่ฝีมือการค้าขายไม่ธรรมดาเลย เพราะเธอเองมีดีกรีเป็นถึงเจ้าของธุรกิจมากมาย ทั้งคู่มาในชื่อทีม ร้าน OMG!! หลังจากเชียร์และลุ้นกันสุดใจ โดยมีแม็คโคร มิตรแท้โชว์ห่วย มาร่วมเป็นติวเตอร์ สอนการวางกลยุทธ์ต่างๆ ในการจัดการร้าน เพื่อให้ชนะภารกิจท้ารวยในแต่ละสัปดาห์ พร้อมทั้งให้ความรู้ เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจค้าปลีกอีกมากมาย ในที่สุด ผู้ชนะเลิศก็ได้แก่หนุ่มเอี่ยว พาคินทร์ คว้ารางวัลเงินสดมูลค่า 200,000 บาท และสินค้ามูลค่า 200,000 บาท รวม 400,000 บาทไปครอง ขณะที่สาวเบลล์ ในฐานะรองชนะเลิศ ได้รับรางวัลเงินสด 50,000 บาท ติดตัวไปเป็นทุนเปิดร้าน รู้ผลกันไปแล้ว คราวนี้ก็มาทำความรู้จักเธอและเขากันสักนิด มาสัมผัสฝันอันสดใสของคนรุ่นใหม่ อนาคต entrepreneur คู่นี้กัน คนแรก เบลล์-ปารณีย์ เล่าให้ฟังว่า ความฝันของเธอได้แรงบันดาลใจมาจากแม่แท้ๆ "แม่เป็นแม่ค้าค่ะ ขายของมาตั้งแต่เรายังไม่เกิด จนเราโต และปัจจุบันก็ยังขายอยู่ แม่เลี้ยงดูลูกมา 4 คนโดยไม่ได้ไปกู้เงินใคร หรือเป็นหนี้ใครเลย ลูกทุกคนเรียนจนจบปริญญาตรี ปริญญาโทกันหมด เพราะเห็นแม่ทำ จึงอยากทำธุรกิจค้าขายเหมือนแม่ค่ะ โดยตั้งใจจะให้เป็นธุรกิจที่ยั่งยืนของครอบครัวต่อไป ตอนแรกก็คิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นยังไง จนมาเจอรายการนี้ จึงตั้งใจสมัครเข้ามา ดีใจมากค่ะ ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 2 คนสุดท้าย ปัจจุบันทำงานประจำแต่ต่อไปตั้งใจจะนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาร้านให้ทันสมัยค่ะ" ส่วน เอี่ยว พาคินทร์ ก็เล่าเช่นกันว่า "แม่ของแฟนผมเปิดร้านโชห่วยอยู่แล้ว แต่ร้านไม่ค่อยสวย เลยสมัครเข้าร่วมรายการ เพราะคิดว่าคงได้ความรู้เพิ่มเติม เพื่อทำร้านให้สวยได้ดังใจ ผมดีใจมากครับที่ได้รับคัดเลือก ตอนนั้นก็คิดว่าต้องได้อะไรดีๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนกลับไปแน่นอน" ด้านแนวคิดในการออกแบบร้าน ที่เตะตาน่ามองนั้น เบลล์บอกว่า "ร้านนี้โค้ชเฟิร์นเป็นคนแนะนำการออกแบบให้ค่ะ โดยให้เลือกโทนสีพาสเทลเพื่อให้ร้านดูสบายตา คนซื้อจะได้อยากเข้ามาซื้อ" ส่วนเอี่ยว นอกจากเก่ง สนุกสนานแล้ว งานนี้ขอมากับดวงด้วย "ผมเป็นคนสนุกสนาน และชอบพาเรื่องขำๆ ฟินๆ มาให้เพื่อนเสมอ เพื่อนจึงเรียนพาฟิน พาฟิน จึงเอาชื่อพาฟินมาตั้งชื่อให้ตัวเอง แต่ผมใส่ น.เข้าไป 3 ตัวด้วยเพื่อให้เป็นเลขมงคล แล้วเอาชื่อพาฟินนน มาเป็นชื่อร้านในการทำร้านโชห่วยจำลองคราวนี้ ส่วนที่เลือกสีดำเพราะต้องการความเท่ ความโมเดิร์น และที่ให้มีลาย 3 เหลี่ยม เพราะตรงกับธาตุของตัวเอง จะได้เสริมดวงร้านครับ" หลังจากเข้าแข่งขัน นอกจากรางวัลและเรื่องมันส์ๆ ท้าทายแล้ว สิ่งสำคัญที่หนุ่มสาวทั้งคู่ได้รับก็คือ ความรู้มากมายที่พร้อมจะช่วยสานฝันให้เป็นจริง "ได้รับความรู้เยอะมากค่ะ เริ่มมาจากศูนย์จริงๆ จากเมื่อก่อนจัดร้านตามใจตัวเอง อยากวางของตรงไหนก็วาง ไม่เคยคิดว่าการจัดร้านมันจะเหนื่อยขนาดนี้ค่ะ เพราะต้องจัดให้ตอบโจทย์คนซื้อ เดิมคิดเพียงแค่ซื้อของมาแล้วก็ขายออกไป คนทำร้านโชว์ห่วยนั่งเฉยๆ ก็ได้เงิน แต่จริงๆ แล้ว คนเป็นเจ้าของร้านโชห่วยต้องทำงานหนักมาก ทั้งคิดทั้งวางแผน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยค่ะ" "การเข้าร่วมโครงการนี้ผมได้ความรู้และประโยชน์มากมายครับ แต่ก่อนไม่เคยพูดคำว่า เหรอครับ!! จริงด้วย!! อ๋อ...!! ได้มากขนาดนี้ รู้สึกเซอร์ไพร์ซจริงๆ ในหลายๆ เรื่องที่ไม่เคยได้รู้มาก่อน เช่น การจัดเรียงของ เราต้องให้ความสำคัญในการเลือกของให้เหมาะสมกับผู้ซื้อ ตัวอย่าง ของที่เด็กๆ ชอบซื้อ ควรอยู่บนเชลฟ์ที่เด็กเอื้อมถึง ของที่คนซื้อน้อยควรอยู่ด้านบน เป็นต้น ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อน ขายของตามสภาพไม่เคยมีกลยุทธ์อะไรเลยครับ ปัจจุบันผมเปิดร้านเล็กๆ อยู่ในซอยอินทามระ แต่อนาคตวางเป้าหมายให้เป็นธุรกิจที่สืบทอดได้ และต้องการให้ร้านมีบริการส่งสินค้าได้ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าครับ" ก็บอกแล้วนี่นะ โชห่วยต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์มาเต็ม อาจจะดูซับซ้อนและยากกว่าที่คิด... แต่ก็ไม่ยากเกินฝันจะเป็นจริง หากพร้อมจะเรียนรู้จากผู้รู้...
แท็ก โชห่วย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ