“บล.โกลเบล็ก” ขานรับสหรัฐฯพิจารณากฎหมายปฏิรูปภาษี วางกรอบดัชนี 1,700 – 1,740 จุด-สะสมหุ้นกลุ่มโรงกลั่น-เดินเรือ-ค้าปลีก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 18, 2017 12:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากสหรัฐฯ เตรียมโหวตร่างงบประมาณประจำปี 2561 วงเงิน 4.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปูทางสู่การพิจารณากฎหมายปฏิรูปภาษีในปีนี้ ให้กรอบการลงทุนที่ 1,700 – 1,740 จุด แนะสะสมหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่คาดการณ์ว่ากำไร Q3/2560 เติบโตจากค่าการกลั่นที่พุ่งขึ้นในช่วงไตรมาส3 กลุ่มเดินเรือที่ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปี และกลุ่มค้าปลีกที่คาดว่ายอดขายต่อสาขาจะกลับมาเติบโตใน Q3/2560 จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ด้านแนวโน้มราคาทองคำ แนะจับจังหวะ trading ในช่วงระหว่างกรอบรับหลักที่ 1,240–1,260 ดอลลาร์ และหากราคายืนเหนือ 1,300 ดอลลาร์ ได้อย่างมั่นคง จึงเน้นเปิด long เป็นสถานะหลัก น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากสหรัฐฯ เตรียมโหวตร่างงบประมาณประจำปี 2561 วงเงิน 4.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสัปดาห์นี้ เพื่อปูทางสู่การพิจารณากฎหมายปฏิรูปภาษีในปีนี้ ประกอบกับ Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง สัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติ Net Buy ราว 6 พันล้านบาท นอกจากนี้ FETCO รายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ธ.ค. 60) ปรับเพิ่มขึ้น 31% อยู่ในภาวะร้อนแรงอย่างมากเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มเผยแพร่ดัชนีในเดือนม.ค. 58 จาก fund flow ไหลเข้าจากต่างประเทศ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทย รวมถึงภายในเดือนต.ค. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เตรียมปรับประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยใหม่ คาดจีพีดีขยายตัวใกล้ 4% เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สำหรับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะนี้มาจาก Bloomberg คาดเฟดมีโอกาส 80% ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ 1.5% ในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ หากอัตราการว่างงานของสหรัฐยังคงปรับตัวลงซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 4.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น แตะระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% โดยดัชนี CPI ในเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 2.2%YoY ทั้งนี้ ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี วันที่19 ต.ค.จีนเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 และภายใน 20 ต.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารทยอยส่งงบการไตรมาส 3/2560 คาดธนาคารขนาดใหญ่ผลประกอบการเติบโตเล็กน้อย QoQ เพราะถูก NPLกดดัน ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้แรงหนุนจากแรงซื้อดักผลประกอบการ Q3/2560 ที่กำลังจะทยอยประกาศตั้งแต่กลางเดือนต.ค. อย่างไรก็ตามในทางเทคนิคเกิดสัญญาณ Bearish Divergence คอยกดดันดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,700 – 1,740 จุด ทั้งนี้ แนะนำกลุ่มโรงกลั่นที่คาดการณ์ว่ากำไร Q3/2560 เติบโตจากค่าการกลั่นที่พุ่งขึ้นในช่วงไตรมาส3 กลุ่มเดินเรือที่ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปี และกลุ่มค้าปลีกที่คาดว่ายอดขายต่อสาขาจะกลับมาเติบโตใน Q3/2560 จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ระดับราคาทองคำอ่อนตัวกลับลงมาอยู่ใต้ระดับจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งมีความเห็นจากประธาน Fed และกรรมการ FOMC บางคนที่บ่งชี้ถึงโอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นตั้งแต่สิ้นปีนี้เป็นต้นไป โดยเดินหน้าโครงการลดงบดุลควบคู่ไปด้วย จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เงินดอลลาร์สร้างฐานรับรอเข้าสู่ขารีบาวด์ และราคาทองคำปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ผลจากการรุกเข้ายึดเมืองในเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ดในอิรัก และการทลายฐานที่มั่นของ ISIS ในซีเรียกับฟิลิปปินส์ อาจเกิดภาวะเสี่ยงต่อสงครามขึ้นในตะวันออกกลางหากมีการเข้าแทรกแซงจากชาติมหาอำนาจ ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น และเป็นโอกาสให้ราคาทองคำยืนเหนือ 1,300 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำให้ผู้ลงทุนจับจังหวะ trading ในช่วงระหว่างกรอบรับหลักที่ 1,240–1,260 ดอลลาร์ กับแนวต้านจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์ และหากราคายืนเหนือ 1,300 ดอลลาร์ ได้อย่างมั่นคง จึงเน้นเปิด long เป็นสถานะหลัก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ