ยอดขายซีพีเอฟ9 เดือน 372,024 ล้านบาท เติบโตร้อยละ8 จากการลงทุนใน15 ประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 14, 2017 18:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ซีพีเอฟ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟรายงานยอดขายงวด9 เดือนปี2560 จำนวน372,024 ล้านบาทเติบโตร้อยละ8 จากปีที่ผ่านมาโดยยอดขายจากกิจการในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 13% ส่วนยอดขายจากกิจการในประเทศไทยอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2559ที่ผ่านมา ซีพีเอฟเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารในประเทศไทยได้มีการขยายการลงทุนในต่างประเทศได้แก่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเวียดนามสหรัฐอเมริกาไต้หวันอินเดียตุรกีรัสเซียกัมพูชาฟิลิปปินส์มาเลย์เซียอังกฤษเบลเยี่ยมศรีลังกาและโปแลนด์โดยล่าสุดได้มีการลงทุนในประเทศเยอรมันเป็นประเทศที่17 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ""บริษัทได้มีการขยายการลงทุนไปยังประเทศต่างๆเพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์สมัยใหม่ในหลายประเทศเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าเนื้อสัตว์คุณภาพและได้เริ่มลงทุนด้านธุรกิจอาหารในประเทศที่มีอุปสรรคด้านการส่งออกจากประเทศไทยเช่นสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปการลงทุนในต่างประเทศนี้เป็นปัจจัยหลักที่เสริมการเติบโตของซีพีเอฟโดยในรอบระยะเวลา9 เดือนแรกของปีนี้กิจการต่างประเทศมียอดขายเติบโตถึงร้อยละ13 ในขณะที่ยอดขายจากประเทศไทยใกล้เคียงกับระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้ยอดขายจากกิจการในต่างประเทศมีสัดส่วน 64% ของยอดขายรวม ส่งออกจากประเทศไทย 6% และกิจการในประเทศไทยนั้นมีสัดส่วน 30%"" นายสุขสันต์เจียมใจสว่างฤกษ์ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและกรรมการผู้จัดการใหญ่(ร่วม) กล่าวถึงปัจจัยหลักที่ผลักดันการเติบโตของซีพีเอฟ ในปีนี้ธุรกิจอาหารโดยเฉพาะในต่างประเทศมีอัตราการเติบโตสูงสุดถึงร้อยละ72 อันเป็นผลมาจากการขยายการลงทุนในหลายประเทศและการเข้าซื้อกิจการในปีที่ผ่านมาสำหรับธุรกิจการเลี้ยงสัตว์นั้นประสบกับภาวะสินค้าสุกรล้นตลาดในประเทศเวียดนามกัมพูชาและประเทศไทยทำให้ราคาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปีก่อนโดยเฉพาะราคาสุกรในเวียดนามนั้นลดลงจากระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้วประมาณร้อยละ40 ทำให้ในปีนี้บริษัทประสบกับภาวะราคาขายต่ำกว่าต้นทุนการผลิตส่งผลให้อัตราการทำกำไรของบริษัทลดลง บริษัทให้ความสำคัญในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้ลดลงจากการพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตและการทำงานประกอบกับการได้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าสูงขึ้นรวมทั้งการมีรายได้จากการขายเงินลงทุนเพิ่มขึ้นทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับรอบระยะเวลา9 เดือนปีนี้จำนวน12,933 ล้านบาทอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมานายสุขสันต์กล่าวปิดท้ายถึงผลการดำเนินงานรอบระยะเวลา 9เดือนปี 2560 นี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ