สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 17, 2017 17:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส สภาวะตลาดวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,277.90-1,284.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,000 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 20,060 บาท โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,060 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.11 น. ของวันที่ 17/11/60) แนวโน้มวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 แม้ว่าสภาผู้แทนราษฎรได้โหวตอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี นี้ด้วยคะแนน 227 ต่อ 205 เสียง แต่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินไม่ได้ตอบสนองในเชิงบวก ราคาทองคำจึงไม่ถูกกดดัน ทั้งนี้ แผนภาษีดังกล่าวจะถูกส่งต่อให้วุฒิสมาชิกสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายต่อไป ซึ่งแผนภาษีนี้ต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ ซึ่งรวมถึงความกังวลเรื่องยอดขาดดุลงบประมาณ, การประกันสุขภาพ และการกระจายผลประโยชน์ทางภาษี ขณะที่ในช่วงต้นสัปดาห์นี้วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันแสดงท่าที่คัดค้าน เนื่องจากแผนภาษีนี้ไปผูกติดกับการยกเลิก individual mandate หรือ ข้อกำหนดที่บังคับให้ชาวสหรัฐซื้อประกันสุขภาพภายใต้กฎหมายค่ารักษาพยาบาลที่สามารถจ่ายได้ (ACA) หรือ "โอบามาแคร์" จุดสนใจของนักลงทุนยังคงมุ่งไปที่การปฏิรูปภาษีในสหรัฐ เพื่อใช้กำหนดทิศทางราคาทองคำในระยะถัดไป ทั้งนี้ในระยะสั้นทองคำได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ร่วงลงโดยได้รับแรงกดดันจากรายงานของ วอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่ระบุว่า นายโรเบิร์ต มึลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษของสหรัฐได้ออกหมายศาลในเดือนต.ค.เพื่อขอดูเอกสารจากเจ้าหน้าที่กว่า 12 คน ซึ่งเป็นเอกสารที่บรรจุคำสำคัญที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐ ขณะที่ส.ส.เดโมแครตเรียกร้องสภาผู้แทนฯสหรัฐถอดถอน ทรัมป์ ฐานขัดขวางกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในประเทศยังคงได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลจากรอยเตอร์ที่เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า นักลงทุนได้ปรับเพิ่มสถานะซื้อในสกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ซึ่งรวมถึงบาทในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าแนวโน้มราคาทองคำอาจมีการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยบริเวณแนวต้าน 1,289-1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้หรือไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้ ก็จะเกิดแรงขายออกมาเช่นเดิม กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,289-1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนอาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป ขณะที่หากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,271 (19,750บาท) 1,260 (19,550บาท) 1,251 (19,400บาท) แนวต้าน 1,293 (20,100บาท) 1,300 (20,200บาท) 1,307 (20,300บาท) GOLD FUTURES (GFZ17) แนวรับ 1,271 (19,880บาท) 1,260 (19,710บาท) 1,251 (19,570บาท) แนวต้าน 1,293 (20,230บาท) 1,300 (20,340บาท) 1,307 (20,450บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ