ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกด้าน ประสานหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน

ข่าวทั่วไป Monday November 20, 2017 13:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น และมหาสารคาม รวม 12 อำเภอ 76 ตำบล 545 หมู่บ้าน 35,930 ครัวเรือน 80,021 คน โดย ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยครอบคลุม ทุกมิติ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 20 – 21 พฤศจิกายน 2560 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ และคาดว่า จะแผ่ปกคลุมภาคเหนือและภาคกลางในระยะต่อไปทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ปภ. ประสานทุกหน่วยงานจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วเครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัย น้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนอุบลรัตน์ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม - 20 พฤศจิกายน 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่23 จังหวัด รวม 79 อำเภอ 482 ตำบล 2,825 หมู่บ้าน 38 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 126,390 ครัวเรือน 327,420 คน ผู้เสียชีวิต 24 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น และมหาสารคาม รวม 12 อำเภอ 76 ตำบล 545 หมู่บ้าน 35,930 ครัวเรือน 80,021 คน อพยพ 40 ครัวเรือน ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงระดมทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ทั้งเต็นท์ที่พัก รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังสู่ลำน้ำสายหลัก อีกทั้งเร่งสำรวจ ความเสียหายเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยที่ครอบคลุมทั้งด้านการดำรงชีพ ชีวิต ทรัพย์สินจากการประกอบอาชีพ และสิ่งสาธารณประโยชน์ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 20 – 21 พฤศจิกายน 2560 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ และคาดว่า จะแผ่ปกคลุมภาคเหนือและภาคกลางในระยะต่อไปทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก จากนั้นอากาศจะเย็นลงและมีลมแรง ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือ สถานการณ์ภัยจากสภาพอากาศแปรปรวนและภาวะฝนตกหนัก โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตาม สภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว และเครื่องมืออุปกรณ์ ให้พร้อมปฏิบัติการ เผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย อีกทั้งขอให้ประชาชน ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตาม ประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ