กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. ออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์ทุนจดทะเบียนชำระแล้วของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า จากเดิมที่กำหนดตามประเภทใบอนุญาต เปลี่ยนเป็นกำหนดตามความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ หรือประเภทผู้รับบริการ เพื่อให้การกำหนดทุนจดทะเบียนชำระแล้วเหมาะสมกับรูปแบบและความเสี่ยงของผู้ประกอบธุรกิจมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถแข่งขันได้ เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้ออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์ทุนจดทะเบียนชำระแล้วของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อแสดงถึงความพร้อมทางการเงินที่เหมาะสมกับรูปแบบและความเสี่ยงของผู้ประกอบธุรกิจมากขึ้น เอื้อต่อการพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่ๆ โดยไม่สร้างภาระเกินความจำเป็นต่อภาคธุรกิจ จากเดิมที่กำหนดทุนจดทะเบียนชำระแล้วตามประเภทใบอนุญาต
การปรับปรุงทุนจดทะเบียนชำระแล้วขั้นต่ำใช้กับการประกอบธุรกิจทั้งหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีหลักการดังนี้ คือ (1) 25 ล้านบาท สำหรับการประกอบธุรกิจที่มีการเก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้าไว้ในความครอบครอง การจัดการกองทุนรวม และกองทุนส่วนบุคคล (2) 100 ล้านบาท สำหรับการประกอบธุรกิจที่มีภาระความรับผิดชอบต่อระบบชำระราคาและการส่งมอบ ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจที่ไม่เข้าลักษณะข้างต้นจะมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 1 ล้านบาท ส่วนการจัดการกองทุนที่ให้บริการแก่เฉพาะผู้ลงทุนสถาบันเท่านั้นจะมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 10 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี เนื่องจากมาตรา 96 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนดให้การค้าหลักทรัพย์ จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ การประกอบธุรกิจที่มีการเก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้าไว้ในความครอบครอง หรือมีการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์เพื่อการลงทุนของบริษัทนั้นเอง ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 100 ล้านบาท จึงยังคงหลักการในส่วนนี้ไว้ในประกาศไปก่อนจนกว่าการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จ
นอกจากการมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่าที่กำหนดแล้ว ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องดำรงเงินกองทุนและสภาพคล่องตามหลักเกณฑ์ ซึ่ง ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการปรับปรุงให้สอดคล้องกับความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจเช่นเดียวกัน และคาดว่าจะมีผลใช้บังคับต้นปีหน้า
ทั้งนี้ อัตราทุนจดทะเบียนขั้นต่ำที่ปรับปรุงใหม่ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560