กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,289.30-1,293.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,000 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 20,050 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,020 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.35 น. ของวันที่ 24/11/60)
แนวโน้มวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560
ดัชนี CSI300 ของตลาดหุ้นจีนดิ่งลง 2.93% ในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 18 เดือน เพราะความกังวลเรื่องแรงเทขายพันธบัตรจีน ประกอบกับรัฐบาลจีนพยายามปรับลดความเสี่ยงทางการเงิน ซึ่งตลาดหุ้นจีนแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่องในวันศุกร์ แม้ว่าดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตจะสามารถปิดขยับขึ้นเพียง 1.90 จุด หรือ +0.06% แต่นักลงทุนหุ้นยังคงระมัดระวังในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงต่อมาตรการด้านกฎระเบียบเพิ่มเติมจากทางรัฐบาลและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้นของภาคเอกชน สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลบวกต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงต่อเมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน แต่ราคาทองคำขยับขึ้นไม่มากนัก เพราะนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตราวัดเงินเฟ้อที่กำลังจะเปิดเผยออกมา หลังจาก PCE พื้นฐานของสหรัฐอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% มาเป็นเวลานานกว่า 5 ปี ประกอบกับนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการสะสมทองคำ หลังจาก โรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% สอดคล้องกับ นายจอห์น วิลเลียมส์ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ซึ่งมีมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดีแนะนำจับตาท่าทีของเกาหลีเหนือ หลังจากกองทัพอากาศของเกาหลีใต้เปิดเผยว่าจะมีการซ้อมรบรอบปกติกับสหรัฐในช่วงวันที่ 4-8 ธ.ค. โดยจะใช้เครื่องบินขับไล่ล่องหนเอฟ-22 แรพเตอร์ 6 ลำในการซ้อมรบครั้งนี้ด้วยเพื่อจำลองการป้องกันประเทศในช่วงที่เกิดสงคราม เพื่อเป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำเพิ่ม
กลยุทธ์การลงทุน แม้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบทิศทางที่ค่อยๆขยับขึ้น วายแอลจีแนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,281-1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิค และนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,297-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,281 (19,800บาท) 1,274 (19,750บาท) 1,266 (19,650บาท)
แนวต้าน 1,300 (20,200บาท) 1,307 (20,300บาท) 1,319 (20,500บาท)
GOLD FUTURES (GFZ17)
แนวรับ 1,281 (19,880บาท) 1,274 (19,770บาท) 1,266 (19,650บาท)
แนวต้าน 1,300 (20,180บาท) 1,307 (20,290บาท) 1,319 (20,480บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999