NDR เร่งโต ประกาศเทคโอเวอร์ธุรกิจยางรายใหญ่ของมาเลย์ มูลค่า 53 ล้านริงกิต พร้อมจ่อขาย PP ที่ราคา 4 บ./หุ้น ให้พันธมิตร ชงผู้ถือหุ้นพิจารณา 18 ม.ค.61 นี้ มั่นใจช่วยเสริมทัพธุรกิจแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 27, 2017 16:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--IR network บอร์ด NDR ไฟเขียว เข้าซื้อกิจการของบริษัท Fung Keong Rubber Manufactory (Malaya) Sdn. Bhd. (FKRMM) จำนวน 20,000,000 หุ้น มูลค่าทั้งสิ้น53,000,000 ริงกิต จาก Consistent Record Sdn. Bhd. (CRSB) เตรียมประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 18 ม.ค.61 เพื่อพิจารณาอนุมัติ ระบุหากที่ประชุมเปิดไฟเขียวจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 60 วันหลังจากได้รับอนุมัติ มั่นใจดีลนี้จะช่วยเสริมธุรกิจของบริษัทฯให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา NDR เป็นผู้ผลิตสินค้ายางในและยางนอกรถจักรยานยนต์ให้แก่กลุ่มบริษัท FKRMM เพื่อนำไปจัดจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย โดยมีรายได้ประมาณ 40%ของรายได้รวม หรือคิดเป็นประมาณ 80% ของรายได้ที่ส่งออก ที่สำคัญแบรนด์ FKRMM มีชื่อเสียงมากว่า 50 ปี อีกทั้งมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศมาเลเซียมากกว่า 79 ราย-คลังสินค้า 4 แห่ง นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2560 ของบริษัทฯ มีมติอนุมัติเข้าซื้อเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท Fung Keong Rubber Manufactory (Malaya) Sdn. Bhd. (FKRMM) จำนวน 20,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ1 ริงกิตมาเลเซีย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด รวมถึงบริษัทย่อย อีก 2 บริษัท ได้แก่ FKR Marketing Sdn. Bhd. (FKRM) และ GCB Trading Sdn.Bhd. (GCB) ที่ FKRMM ถือหุ้นในบริษัทย่อยทั้ง 2 บริษัทในสัดส่วนร้อยละ 100.00 ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด จากทาง Consistent Record Sdn. Bhd. (CRSB) ในฐานะผู้ขายเงินลงทุน โดยมีราคาซื้อขายคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 53,000,000.00 ริงกิต โดยภายหลังการเข้าทำรายการจะทำให้ FKRMM,FKRM และ GCBจะเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนการเข้าถือหุ้นทั้ง 3 บริษัทดังกล่าวในสัดส่วนร้อยละ 100.00 ซึ่งบริษัทฯจะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการทำรายการดังกล่าว ในวันที่ 18 มกราคม 2561 โดยคาดว่าจะทำรายการแล้วเสร็จภายใน 60 วันหลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น สำหรับรายละเอียดการชำระเงินการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ FKRMM มูลค่าทั้งสิ้น 53,000,000 ริงกิตมาเลเซีย มีดังนี้ คือ ส่วนที่ 1 บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ให้แก่ CRSB จำนวน 55,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 20.31 ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเข้าทำรายการของบริษัทฯ ในราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน มูลค่า 4 บาท ต่อหุ้น รวมเป็นมูลค่า 28,600,000 ริงกิตมาเลเซีย หรือเทียบเท่า 220,000,000 บาท (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนที่ 0.13 ริงกิตมาเลเซียต่อบาท (เป็นอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ย 15 วัน ก่อนวันเริ่มเจรจากันระหว่าง NDR และ CRSB คือตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2560 ถึง วันที่ 12กันยายน 2560 อ้างอิงจาก ธนาคารแห่งประเทศมาเลเซีย) และส่วนที่ 2 บริษัทฯ ชำระเป็นเงินสดส่วนที่เหลือ จำนวน 24,400,000 ริงกิตมาเลเซีย "การเข้าซื้อ FKRMM จะเป็นการเสริมกันกับธุรกิจของบริษัทฯ เนื่องจากที่ผ่านมา NDR เป็นผู้ผลิตสินค้ายางในและยางนอกรถจักรยานยนต์ให้แก่กลุ่มบริษัท FKRMMเพื่อนำไปจัดจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย โดยรายได้ประมาณร้อยละ 40.00 ของรายได้รวม และรายได้ประมาณร้อยละ 80 ของรายได้ที่ส่งออกเป็นรายได้ที่จัดจำหน่ายให้แก่กลุ่ม FKRMM ดังนั้นการเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท FKRMM จึงเป็นการเสริมกันของธุรกิจในแนวตั้ง เป็นการได้ตราสินค้าของ FKRMM ซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคมากว่า 50 ปี ได้บริษัทผู้จัดจำหน่ายสินค้าที่มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศมาเลเซียมากกว่า 79 ราย รวมถึงมีคลังสินค้าในการจัดเก็บและกระจายสินค้าที่เป็นของตัวเองถึง 4แห่ง ในประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างโอกาสในการขยายฐานลูกค้าและเป็นการสร้างโอกาสในการจัดจำหน่ายสินค้าที่ผลิตจากยางนอกเหนือจากยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ และรองเท้าในประเทศมาเลเซียและประเทศใกล้เคียงให้แก่บริษัทฯ ในอนาคต และภายหลังการเข้าทำรายการเรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ จะแต่งตั้งตัวแทนเข้าไปเป็นกรรมการบริษัทของ FKRMM จำนวน 2 ท่าน และแต่งตั้งผู้บริหารเพื่อเข้าไปบริหารงานของ FKRMM จำนวน 1 ท่าน อย่างไรก็ดี สำหรับการดำเนินกิจการปกติยังคงใช้บุคลากรเดิมของ FKRMM ในการปฏิบัติงานต่อไป" เขา กล่าวต่อว่า เมื่อเข้าทำรายการเรียบร้อยแล้ว Consistent Record Sdn Bhd (CRSB) จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทฯ ในสัดส่วนร้อยละ 20.31 ของทุนชำระแล้ว พร้อมกันนี้ CRSB จะมีการส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการของ บริษัทฯ จำนวน 1 ท่านโดยกรรมการที่เป็นตัวแทนจาก CRSB ไม่ได้เป็นผู้บริหารที่มีอำนาจการตัดสินใจในการดำเนินงานตามปกติของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามสัดส่วนการถือหุ้นของ CRSB ภายหลังการทำรายการจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับจำนวนการใช้สิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นNDR-W1 ของ CRSB จำนวน 32.00 ล้านหน่วย และจำนวนการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายอื่นๆ ในวันที่ใช้สิทธิ ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2560, วันที่ 15 มิถุนายน2561 และวันที่ 22 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่ใช้สิทธิครั้งสุดท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ